ของผู้บริหารทางการเงินทั่วโลกที่ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยเชื่อว่าการประกันแบบผสมผสานจะเปลี่ยนจากสิ่งที่ควรมีให้กลายเป็นสิ่งที่ต้องมี
ผู้บริหาร 74% จากธนาคารและฟินเทคเชื่อว่าการเสนอการประกันแบบผสมผสาน ช่วยให้องค์กรของพวกเขาสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า
ของผู้บริโภคสนใจที่จะซื้อประกันเพิ่มเติม
การสำรวจแสดงให้เห็นว่าฟินเทคและธนาคารที่มีความมั่นคงเห็นด้วยเป็นอย่างมากว่าการรวมประกันแบบดิจิทัลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขา กำลังจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นต้องมี เพื่อการแข่งขันในตลาดบริการทางการเงินทั่วโลก
สถาบันทางการเงินได้ตอบรับการเรียกร้องของผู้บริโภค สำหรับประสบการณ์การซื้อที่ใช้งานง่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินของพวกเขา การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลภายในธนาคารที่มีความมั่นคง สถาบันการเงินที่ดำเนินธุรกิจแบบดิจิทัลที่มีความล้ำสมัยหรือฟินเทค ได้นำไปสู่โซลูชันการชำระเงินที่ล้ำสมัยมากมาย ตั้งแต่กระเป๋าเงินดิจิทัลไปจนถึงการชำระเงินตามบริบทที่ฝังอยู่ในโซเชียลมีเดีย
สถาบันทางการเงินหลายแห่งนำเสนอการประกันที่ผูกกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายหรือเป็นข้อเสนอแบบเดี่ยวเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า เพิ่มความไว้วางใจของผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นได้
การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารด้านการเงินทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบผสมผสาน—ไม่ว่าปัจจุบันจะนำเสนอประกันแบบผสมผสานหรือไม่ก็ตาม—เปิดเผยว่า 81% ของพวกเขาเชื่อว่าประกันแบบผสมผสานจะเปลี่ยนจากสิ่งที่น่ามีให้กลายเป็นสิ่งที่ต้องมี
รายงานนี้อ้างอิงจากการสำรวจผู้บริโภค 2,000 รายทั่วโลก และผู้บริหาร 200 รายจากสถาบันทางการเงิน รวมถึงบริษัทที่มีความมั่นคงและฟินเทค ตลอดจนการสัมภาษณ์ผู้บริหารของชับบ์โดยจะกล่าวถึง:
ระเบียบวิธีการสำรวจ
จากการสำรวจผู้บริโภค 2,000 คนทั่วโลกและผู้บริหารของสถาบันทางการเงิน 200 แห่ง ซึ่งจัดทำโดย iResearch Services ในไตรมาสที่สองของปี 2566
ผู้บริโภคถูกแบ่งเท่า ๆ กันในสี่ภูมิภาค: อเมริกาเหนือ (500 คน), ลาตินอเมริกา (500 คน), เอเชียแปซิฟิก (500 คน) และยุโรป (500 คน) พวกเขาเป็นตัวแทนของทุกกลุ่มอายุ ระดับการศึกษา และสถานภาพทางวิชาชีพ โดยสรุปแล้ว เนื้อหาในรายงานนี้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,000 คนจากทั่วโลกถูกอ้างอิงเป็น “ผู้บริโภค”
ผู้บริหารทางการเงินเป็นตัวแทนของธนาคารที่มีความมั่นคง (52%) และฟินเทค (48%) พวกเขาแบ่งเท่า ๆ กันในสี่ภูมิภาค: อเมริกาเหนือ (50), ลาตินอเมริกา (50), เอเชียแปซิฟิก (50) และยุโรป (50) ฟินเทคส่วนใหญ่ (84%) มีรายได้ 10 ล้านดอลลาร์ถึง 500 ล้านดอลลาร์ (250 ล้านดอลลาร์ในตลาดเอเชียบางแห่ง); ธนาคารที่มีความมั่นคงส่วนใหญ่ (89%) มี AUM (สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ) อย่างน้อย 1 พันล้านดอลลาร์ ผู้บริหารทุกคนที่ถูกสำรวจมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับ
ผลิตภัณฑ์ประกัน เช่น ประกันภัยแบบผสมผสาน
สำหรับทั้งผู้บริโภคและผู้บริหารทางการเงิน ภูมิภาคดังกล่าวได้รวมถึงประเทศดังต่อไปนี้ อเมริกาเหนือ: สหรัฐอเมริกาและแคนาดา; ลาตินอเมริกา: บราซิล เม็กซิโก และชิลี; เอเชียแปซิฟิก: เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม; ยุโรป: สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสเปน
กระเป๋าเงินดิจิตอล การชำระเงินแบบไร้การสัมผัส และข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมตามบริบทที่ฝังอยู่ตอนนี้ กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ยุคของเงินสด เช็ค หรือการไปที่ตู้เอทีเอ็มถูกแทนที่ด้วยการชำระเงินเสมือนจริง ด้วยบริการทางการเงินแบบดิจิทัลมากมายที่ลูกค้ายอมรับอย่างมากสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารที่มีความมั่นคง หรือฟินเทคด้านดิจิทัลต่างก็มองหาข้อเสนอประเภทใหม่ ๆ
หลายคนหันมาทำประกันภัย โดยเฉพาะประกันภัยแบบผสมผสาน ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการรวมความคุ้มครองความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นบนเส้นทางการซื้อของลูกค้า โดยไม่เพิ่มอุปสรรคใด ๆ ให้กับประสบการณ์ของพวกเขา
การประกันภัยแบบผสมผสานจะเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และสภาพแวดล้อม เช่น ลูกค้าซื้อประกันการเดินทางเมื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน ซื้อประกันป้องกันการโจรกรรมเมื่อซื้อแหวนเพชร หรือซื้อประกันไซเบอร์เมื่อสมัครสมาชิกวิดีโอเกม
Amy McNeece, Senior Vice President of Digital Consumer Partnerships
สถาบันทางการเงินคาดการณ์การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของรายได้ที่ได้รับจากการประกันภัย ในอีกสามปี สถาบันทางการเงินมากกว่าครึ่งที่ทำการสำรวจคาดว่าจะมีรายได้จากการประกันภัย 10% หรือมากกว่านั้นเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินเพียงหนึ่งในห้าที่ได้รับรายได้จากการประกันภัยในปัจจุบัน
รายได้ของคุณคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบันจากการประกันภัยแบบผสมผสาน - คุณตั้งเป้าจะสร้างรายได้โดยตรงกี่เปอร์เซ็นต์จากการประกันภัยแบบผสมผสานใน 3 ปีข้างหน้า?
ประกันภัยที่นำเสนอกับลูกค้าของธนาคารมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบเดี่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าหลัก (นำเสนอผ่านช่องทางดิจิทัลหรือช่องทางการขายอื่น ๆ) ที่เป็นส่วนเสริมกับผลิตภัณฑ์หลักของธนาคาร โดยประกันภัยที่เกี่ยวข้องจะถูกรวมเข้าไปโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อาทิ ประกันภัยการเดินทาง หรือการซื้อความคุ้มครองในบัตรเครดิต ประกันภัยจะถูกมอบให้กับลูกค้าเพื่อเป็นการเพิ่มลูกค้าใหม่ของธนาคารด้วยผลประโยชน์ของผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า อันจะเพิ่มความจงรักภักดีและความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารโดยการสร้างการชำระเงินแบบต่อเนื่องเป็นประจำ
ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ทั่วโลก 66% เสนอการประกันภัยแบบบูรณาการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าของบริการ นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ผู้บริหารด้านการเงินทั่วโลกจัดอันดับความไว้วางใจและความพึงพอใจของลูกค้าไว้เหนือการสร้างรายได้ทางตรงว่าเป็นประโยชน์สูงสุดของประกันผสมผสาน หนึ่งในเหตุผลที่นำเสนอประกันแบบผสมผสาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับฟินเทค คือความต้องการที่จะขยายฐานลูกค้าอย่างจริงจัง
คุณเสนอการประกันแบบผสมผสานประเภทใด?
ในทุกภูมิภาค การนำเสนอประกันภัยเพื่อเพิ่มมูลค่านั้นเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับสถาบันการเงิน นำโดยอเมริกาเหนือที่สามารถดึงดูดได้มากที่สุด และตามมาด้วยยุโรป ตัวอย่างเช่น นักเดินทางชาวฝรั่งเศสที่ถือบัตรพรีเมียมของ Boursorama Banque หรือ Ultim สามารถวางแผนการเดินทางด้วยความอุ่นใจมากขึ้น เนื่องจากบัตรมีประกันการเดินทางที่ครอบคลุม โดยที่ผู้บริโภคไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Bon Voyage!
นักเดินทางชาวฝรั่งเศสที่ถือบัตรพรีเมียม Ultim ของ Boursorama Banque ที่สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น เนื่องจากบัตรนี้มอบประกันการเดินทางที่คุ้มครองอย่างครอบคลุมซึ่งรับประกันภัยโดยชับบ์
กลุ่มธุรกิจการเงินออนไลน์ในประเทศฝรั่งเศสที่ก่อตั้งในปี 1995 โดย Société Générale Boursorama มีการเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยลูกค้า 4.7 ล้านราย และมีเป้าหมายที่ 5.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้
ชับบ์มีส่วนช่วยอย่างไร
ประกันภัยการเดินทาง Ultim ซึ่งได้เปิดตัวในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 เกิดจากความร่วมมือของ Boursorama กับชับบ์ ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยทรัพย์สินและวินาศภัยที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับการเดินทางดิจิทัลถูกริเริ่มขึ้นใหม่ในช่วงเวลาสี่เดือน โดยบุคลากรของชับบ์ถึง 50 คน ได้มีส่วนร่วมในการสร้างบริการด้านการประกันภัย ด้วยความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ชับบ์จึงสามารถพัฒนากระบวนการและใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสององค์กรเพื่อสร้างโซลูชันแบบพร้อมใช้งานทันที ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าในอีกหลายปีข้างหน้า
เปิดใช้งานเมื่อมีการซื้อ
ประกันภัยการเดินทางที่มอบให้ผู้บริโภคโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจะถูกเปิดใช้งานเมื่อผู้ถือบัตรทำรายการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น การซื้อตั๋วเครื่องบินหรือจองโรงแรม
ผู้ถือบัตรพรีเมียมจะได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุหรือเหตุไม่คาดคิดหลายกรณีที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางโดยอัตโนมัติ อาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน อุบัติเหตุในต่างประเทศ ความไม่สะดวกจากการเช่ารถ หรือค่ารักษาพยาบาล โดยรวมแล้ว ประกันภัยการเดินทางนี้มีสิทธิประโยชน์ถึง 32 รายการ
นอกจากการพลิกโฉมของตลาดด้วยค่าธรรมเนียมบัตรที่ต่ำที่สุดแล้ว Boursorama ยังสามารถแข่งขันกับบัตรพรีเมียมอื่น ๆ ด้วยการมอบความคุ้มครองประกันการเดินทาง
ฟินเทคแบบดิจิทัลเป็นผู้นำในด้านการประกันภัย Isabella Carvalho หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของชับบ์ ไม่แปลกใจเลย
ความแตกต่างจากฟินเทคกับธนาคารที่มีความมั่นคง ก็คือธนาคารต้องรับมือกับเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่มากมายในสายธุรกิจทั้งหมดของพวกเขา ในขณะที่พวกเขากำลังเปลี่ยนมาสู่การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหลากหลายช่องทาง ซึ่งเป็นประสบการณ์ของลูกค้าแบบผสมผสานของช่องทางกายภาพกับช่องทางด้านดิจิทัล (phygital) อย่างไรก็ตาม สถาบันทางการเงินที่มีความมั่นคงยังคงมีข้อได้เปรียบที่สำคัญ Israel Rayan หัวหน้าฝ่ายผู้บริโภคของชับบ์ประจำยุโรปภาคพื้นทวีป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (CEMENA) ชี้ให้เห็นดังนี้ “ประการแรก ธนาคารที่มีความมั่นคงไม่จำเป็นต้องมุ่งความสนใจไปที่การขยายฐานลูกค้ามากนัก เพราะพวกเขาสร้างฐานลูกค้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประการที่สอง ขั้นตอนการปฏิบัติของพวกเขาทำให้การปฏิบัติงานมีเสถียรภาพมากขึ้น ประการที่สาม พวกเขามักจะมีทรัพยากรทางการเงินมากกว่าและไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนภายนอกมากเท่ากับบริษัทสตาร์ทอัพ”
ไม่ใช่จุดกำเนิดของบริษัทที่ต้องกำหนดอนาคตของบริษัท
Gabriel Lazaro Head of Digital, Chubb Overseas General Insurance
Rodrigo Valiente รองประธานฝ่ายดิจิทัลของ Chubb ประจำลาตินอเมริกาเชื่อว่า ฟินเทคเริ่มต้นจากการมีข้อได้เปรียบเหนือธนาคารแบบดั้งเดิมเมื่อพูดถึงการประกันภัยแบบผสมผสาน
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบริการทางการเงินของฟินเทค พร้อมที่จะเพิ่มการประกันภัย แล้วช่วงเวลาใดถึงเป็นเวลาที่เหมาะสม? แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าไม่มีสูตรตายตัว แต่ Valiente ชี้ให้เห็นเหตุการณ์สำคัญหลายประการที่ควรบรรลุก่อนพิจารณาการประกันภัยแบบผสมผสาน:
การนำการประกันภัยแบบผสมผสานมาใช้เป็นไปตามการนำโทรศัพท์มือถือมาใช้ ตลาดที่กำลังเกิดใหม่ ซึ่งขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารแบบดั้งเดิมที่เพียงพอ และเผชิญกับการขาดแคลนโทรศัพท์บ้านต่างหันมาใช้โทรศัพท์มือถือเร็วกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
สำหรับคนจำนวนมากในตลาดเกิดใหม่ โทรศัพท์มือถือเป็นทางเดียวที่จะได้โทรศัพท์ ดังนั้นพวกเขาจึงกระตือรือร้นที่จะยอมรับมัน พวกเขาก้าวกระโดดจากการไม่มีโทรศัพท์เลยไปสู่การมีโทรศัพท์มือถือโดยข้ามขั้นตอนการใช้โทรศัพท์บ้าน ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารและไม่มีประกันภัย ในตลาดเกิดใหม่มักจะก้าวกระโดดจากธนาคารแบบดั้งเดิมไปสู่การยอมรับธนาคารแบบดิจิทัลและการประกันภัย
ในส่วนต่าง ๆ ของโลกที่โครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน และการประกันภัยแบบดั้งเดิมยังไม่สมบูรณ์ เช่น ลาตินอเมริกา หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้บริหารทางการเงินและผู้บริโภค รู้สึกตื่นเต้นกับการประกันแบบผสมผสานมากกว่าในตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรปและอเมริกาเหนือ
เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของคุณที่สร้างขึ้นจากประกันภัยแบบผสมผสาน – เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของคุณที่คุณตั้งเป้าว่าจะสร้างขึ้นจากประกันภัยแบบผสมผสาน ในอีก 3 ปีข้างหน้า (เปอร์เซ็นต์ของสถาบันทางการเงินที่สร้างรายได้อย่างน้อย 10% จากการประกันภัย)
มีความแตกต่างโดยพื้นฐานในบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลซึ่งรวมถึงการประกันภัยในแต่ละภูมิภาค ก่อนการเปลี่ยนแปลงเป็นดิจิทัล ลาตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่เป็นสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยเงินสด กลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงสิ่งอํานวยความสะดวกด้านการธนาคารได้ หมายถึงผู้ที่เข้าไม่ถึงประกันภัยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ในลาตินอเมริกา ดัชนีการเจาะตลาด (อัตราส่วนของเบี้ยประกันต่อ GDP) ที่ประมาณ 2% นั้นน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศที่พัฒนาแล้ว ในบางประเทศ
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ ดัชนียังอยู่ที่ประมาณ 2%
Isabella Carvalho, Head of Digital, APAC at Chubb
ยกตัวอย่างเช่น จีแคช (GCash) ซึ่งเป็นซูเปอร์แอปชั้นนำในฟิลิปปินส์ตระหนักดีว่าลูกค้าจำนวนมากจะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนในกรณีที่ไม่สามารถชำระบิลได้ชั่วคราว
GCash เพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกรรมผ่านแอปฯ
GCash เป็นระบบสังคมแบบไร้เงินสดแห่งหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ที่มีผู้ใช้หลายล้านคน พร้อมทั้งช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ร้านค้าพันธมิตรในการมุ่งสู่กระบวนการแปลงไปสู่รูปแบบดิจิทัล
ในฐานะผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล (E-Wallet) ชั้นนำในประเทศฟิลิปปินส์จึงตระหนักดีว่าลูกค้าจำนวนมากจะได้รับประโยชน์หากมีความคุ้มครองด้านประกันภัยรวมอยู่ในการทำธุรกรรมผ่านแอปฯ ของพวกเขา ซึ่งมอบความคุ้มครองการชำระบิลและค่าใช้จ่ายในการซื้อกรณีที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ความท้าทาย
GCash ต้องการมอบความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านบริการของเขา ซึ่งลูกค้าหลายคนอาจมีความคุ้มครองในประกันน้อยเกินไปหรือไม่มีความคุ้มครองในประกันเลย ซึ่งอาจส่งผลกระทบหากพวกเขาไม่สามารถทำงานและหารายได้ ดังนั้น เป้าหมายของธุรกิจคือการมอบความคุ้มครองสำหรับธุรกรรมที่ดำเนินการผ่านแอปฯ
ชับบ์มีช่วยอย่างไร
ชับบ์นำเสนอการประกันภัยแบบผสานกับประสบการณ์ดิจิทัลผ่านพันธมิตร มอบความคุ้มครองที่จำเป็นเฉพาะแต่ละบุคคลด้วยรูปแบบที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสำหรับลูกค้าของบริษัทพันธมิตรของเราอย่างเช่น GCash ด้วยความร่วมมือกับชับบ์ทำให้ GCash สามารถนำเสนอแผนประกันภัยที่ตอบโจทย์และไม่ซับซ้อนในราคาคุ้มค่าแก่ลูกค้าได้อย่างสะดวก ซึ่งกรมธรรม์ไม่เพียงแต่เข้าถึงได้ง่ายผ่านโทรศัพท์มือถือหรือช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายต่ำอีกด้วย ทำให้ชาวฟิลิปปินส์ได้รับประโยชน์จากความคุ้มครองด้านการประกันภัยโดยที่ไม่ต้องจ่ายเบี้ยในราคาสูง
ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอผ่านแอปฯ ของ GCash ได้แก่ GInsure Bill Protect ที่มอบประกันภัยสำหรับลูกค้าที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุและทุพพลภาพถาวรอันมีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บทางร่างกายเป็นระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่ทำการชำระเงินเพื่อทำธุรกรรม อีกทั้งยังสามารถเรียกร้องสินไหมผลประโยชน์แบบเงินก้อนเทียบเท่าจำนวนเงิน 36 เท่าของการชำระบิลของ GCash ในกรณีอุบัติเหตุได้ เบี้ยประกันภัยน้อยกว่า 1% ของยอดรวมของการชำระบิลชอง GCash โดยผู้ใช้จะได้รับข้อเสนอของแผนประกันนี้ในขั้นตอนที่ลูกค้าเริ่มการชำระบิลในแอปฯ
ด้วยความร่วมมือกับชับบ์ GCash ยังได้เสนอความคุ้มครองในการซื้อ และความคุ้มครองผู้ซื้อสำหรับสินค้าที่ซื้อโดยใช้แอปฯ แผน Online Shopping Protect Insurance มอบเงินชดเชยคืนสูงสุด 20,000 เปโซฟิลิปปินส์ (ประมาณ 360 ดอลลาร์สหรัฐ) ในกรณีที่สินค้าส่งไม่ถึงผู้รับ ได้รับความเสียหาย ถูกขโมย หรือเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ โดยคุ้มครองเป็นระยะเวลา 60 วันนับจากวันที่สั่งซื้อ ค่าเบี้ยประกันภัยมีมูลค่าสูงกว่าหนึ่งเปโซต่อวันของความคุ้มครองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น
การเป็นพันธมิตรกับชับบ์คือส่วนสำคัญของ GCash Insurance ซึ่งเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ด้านการประกันภัยอย่างครอบคลุม เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้าถึงความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลและความคุ้มครองเงินชดเชยรายวันจากการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ในบราซิล Nubank หนึ่งในแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก พยายามเพิ่มบริการประกันให้กับฐานลูกค้าที่กำลังเติบโต ซึ่งหลายคนเป็นลูกค้าที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือไม่มีโอกาสซื้อประกันเป็นครั้งแรก
การเติมเต็มความคุ้มครองประกันภัยทั่วทั้งเขตลาตินอเมริกา
ผู้ประกอบการธนาคารดิจิทัลรายใหญ่แห่งหนึ่งได้แสวงหาวิธีในการเพิ่มบริการด้านประกันภัยให้กับฐานลูกค้าที่กำลังเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งลูกค้าจำนวนมากเป็นลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านการเงินในระบบได้หรือเข้าถึงบริการทางการเงินได้บางส่วนเพื่อซื้อประกันเป็นครั้งแรก
Nubank ซึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศบราซิลในปี พ.ศ. 2556 เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้บริการผู้ใช้ประมาณ 75 ล้านคนทั่วเขตลาตินอเมริกา นำเสนอบริการที่หลากหลาย ได้แก่ บัญชีส่วนตัว บัตรเครดิต บัญชีธุรกิจ การลงทุน เงินกู้ สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) รวมถึงประกันในขณะนี้
ความท้าทาย
สำหรับลูกค้าหลายคนในภูมิภาคที่ Nubank ให้บริการ การได้รับการคุ้มครองด้านประกันชีวิตอาจเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนของตัวเลือกแผนประกันที่มีอยู่ในตลาด ตลอดจนการขาดความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประโยชน์ที่แท้จริงของความคุ้มครองในประกัน ธนาคารจึงพยายามนำเสนอวิธีการที่แนบเนียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการสร้างความคุ้นเคยกับสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย และทำให้ง่ายต่อการสมัคร
ชับบ์มีส่วนช่วยอย่างไร
ชับบ์ร่วมมือกับ Nubank เพื่อสร้างข้อเสนอที่ผู้คนนับล้านอาจไม่รู้มาก่อนว่าทำไมต้องซื้อประกัน หรือจะซื้อประกันได้อย่างไร โดยกรมธรรม์มอบความคุ้มครองเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับการใช้ชีวิต เช่น การรักษาตัวในโรงพยาบาลหรืออุบัติเหตุ ความคุ้มครองอุปกรณ์พกพา ฯลฯ ซึ่งความคุ้มครองทั้งหมดนี้ช่วยเติมเต็มความต้องการด้านความคุ้มครองการประกันภัยที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าในเขตลาตินอเมริกา
ความคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น
ข้อเสนอแรกจากพันธมิตร Nubank Vida แสดงให้เห็นถึงก้าวแรกสู่การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เท่าเทียมกัน รวมทั้งช่วยสร้างบริการทางการเงินยุคใหม่ในเขตลาติน อเมริกา ซึ่งผลิตภัณฑ์ประกันภัยดังกล่าวมีกรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองอยู่กว่า 560,000 กรมธรรม์
ข้อเสนอที่สอง Nubank Celular Seguro มอบความคุ้มครองสำหรับโทรศัพท์มือถือ โดยทั้งสองผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบโดย Nubankโดยใช้ Chubb Studio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลระดับโลกของชับบ์
จากผลสำรวจผู้ถือกรมธรรม์ที่จัดทำโดย Nubank ลูกค้ากว่า 50% กล่าวว่า Nubank Vida เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตแผนแรกของพวกเขา และ Nubank Celular Seguro เป็นกรมธรรม์ประกันภัยโทรศัพท์มือถือแผนแรกของพวกเขา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Nubankได้ประกาศเปิดตัวสองผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันภัยด้วยความร่วมมือกับชับบ์ — แผน Nu Vidas Juntas และ แผน Nubank Parcela Seguro โดยแผน Nu Vidas Juntas ได้นำองค์ประกอบที่แปลกใหม่มาสู่ตลาดโดยเปิดให้ลูกค้าสมัครประกันสำหรับตนเอง และสามารถมอบกรมธรรม์ให้กับลูกค้าของ Nubank รายอื่นได้ ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีความสัมพันธ์กัน สำหรับแผน Nubank Parcela Segura ช่วยให้ลูกค้าที่สมัครสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านแอปฯ ของบริษัทสามารถเข้าถึงความคุ้มครองประกันภัยในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพื่อช่วยให้การชำระเงินกู้ของลูกค้าเป็นปัจจุบันล่าสุด และแผนประกันดังกล่าวจะทยอยนำเสนอให้กับผู้ใช้บริการ Nubank ที่มีสิทธิ์ได้รับเครดิตผ่านสินเชื่อส่วนบุคคลต่อไป
ในตลาดที่พัฒนาแล้ว การเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัลได้ถูกเร่งให้เกิดขึ้นจากสถานการณ์โรคระบาด โดยเน้นให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนประสบการณ์ของสาขาธนาคารแบบดั้งเดิมและกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล ไม่ใช่เรื่องของลูกค้ารายแรกแต่เกี่ยวกับการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมใหม่ ๆ ของลูกค้าที่มีอยู่และแนวทางใหม่ ๆ ของคนรุ่นใหม่
ในขณะที่ความต้องการในปัจจุบันและการเติบโตของตลาดการเงินและประกันแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ตลาดโลกกำลังได้รับอิทธิพลจากไลฟ์สไตล์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและกระแสสังคมทั่วโลก ตัวอย่างเช่น การแบ่งส่วนประสบการณ์จำเป็นต้องทำประกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เช่น เพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การเดินทางแบบใช้รถร่วมกัน การเปลี่ยนแปลงชีวิตการทำงานด้วยกลุ่มฟรีแลนซ์ที่ขึ้นอยู่กับการมอบหมายงานระยะสั้น ทำลายความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และสร้างความต้องการในการคุ้มครองการจ่ายเงินเดือน และความรวดเร็วของชีวิตขึ้นอยู่กับการตัดสินใจแบบใช่หรือไม่ใช่ในเสี้ยววินาทีเกี่ยวกับประกัน ดังนั้น การซื้อประกันภัยจากการเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมอื่นจึงได้รับความสนใจโดยผู้บริโภคชาวลาตินอเมริกามากกว่าครึ่ง (55%) ซื้อประกันด้วยวิธีนี้ ซึ่งนับว่ามากกว่าในภูมิภาคอื่น ๆ
และแม้ว่าช่องว่างของความคุ้มครองด้านประกันภัยทั่วโลกจะไม่เท่ากัน แต่ผู้บริโภคมากกว่าครึ่งโลก ไม่ว่าจะอยู่ในตลาดเกิดใหม่หรือตลาดพัฒนาแล้ว เชื่อว่าพวกเขาต้องการทำประกันมากขึ้น พวกเขารู้สึกว่าไม่มีหลักประกันจากความเสี่ยงที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ความปลอดภัยทางการเงิน การเดินทางล่าช้า หรือการฉ้อโกง ความเสี่ยงสมัยใหม่ทั้งหมดนี้สามารถทำประกันได้โดยใช้การประกันแบบดิจิทัล
ความต้องการของผู้บริโภคจะยังคงขับเคลื่อนคลื่นของประกันภัยแบบผสมผสาน ทำให้อุตสาหกรรมมีความยืดหยุ่นและตอบสนองมากขึ้น ทำธุรกรรมได้มากขึ้นโดยแทบจะไร้อุปสรรค และมอบความคุ้มครองที่ลูกค้าต้องการ
ในแง่ของประกันภัย คุณป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน? (เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคที่รู้สึกได้รับการปกป้องหรือได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี)
ผู้บริโภคนิยมซื้อประกันแบบดิจิทัลประเภทใด?
เกือบครึ่ง (46%) เชื่อว่าดิจิทัลเป็นช่องทางที่เหมาะสมในการซื้อประกัน และมากกว่าครึ่งของผู้บริโภคทั้งหมด (56%) เชื่อว่าพวกเขาต้องการทำประกันเพิ่ม (ดูคำบรรยายภาพและแผนภูมิ) ความสนใจในการซื้อประกันมากขึ้นในลาตินอเมริกาและเอเชียสูงกว่าในยุโรปและอเมริกาเหนือ สะท้อนให้เห็นระดับที่ต่ำของการเจาะตลาดในตลาดเกิดใหม่
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับความจำเป็นในการทำประกันในตลาดเกิดใหม่ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าแม้ผู้บริโภคในตลาดที่อิ่มตัวแล้วก็ยังตระหนักว่าพวกเขาต้องการทำประกันมากขึ้น
การสำรวจพบว่าผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะมีประกันแบบดั้งเดิม เช่น ประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพ และประกันชีวิต มีการทำประกันต่ำกว่ามูลค่าจริงอยู่ในระดับสูงสำหรับประกันบางประเภท เช่น การคุ้มครองเงินเดือน ประกันสัตว์เลี้ยง และประกันการขนส่ง หรือประกันการเดินทางล่าช้า โดยแต่ละประเภทเหล่านี้เห็นการการนำไปใช้น้อยกว่า 10% ณ จุดนี้ รูปแบบการที่ประกันภัยเข้าไม่ถึงเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันทั่วโลก
ประเภทของประกันที่ผู้บริโภคทั่วโลกมักขาดมักเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในยุคปัจจุบัน ซึ่งมาพร้อมกับการเพิ่มขึ้นในการเดินทางทุกรูปแบบ การเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากแบบเต็มเวลาเป็นอาชีพอิสระหรือพนักงานไร้ออฟฟิศ (Nomadic) การแนะนำรูปแบบธุรกิจบนแพลตฟอร์มใหม่สำหรับคนที่ต้องการหางานและลูกค้าที่จะจับจ่ายซื้อของเพื่อบอกถึงความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยในการใช้ชีวิตและการทำงานของเรา
สถาบันทางการเงินหลายแห่งได้คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ได้แก่ SoFi บริษัทการเงินส่วนบุคคลดิจิทัลของอเมริกา บริษัทนายหน้าประกันภัยได้ร่วมมือกับ Blink โดยชับบ์ เพื่อให้บริการประกันภัยทางไซเบอร์ส่วนบุคคลที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย และราคาไม่แพง Tenpo ฟินเทคของชิลีให้ความคุ้มครองการโจรกรรมทรัพย์สินส่วนตัวในยานพาหนะ
ทำในสิ่งที่ใช่
SoFi เป็นธุรกิจด้านการเงินส่วนบุคคลดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถบรรลุความเป็นอิสระทางการเงินตามความต้องการของผู้บริโภค
SoFi ให้บริการสมาชิกกว่า 4 ล้านคนด้วยเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้เรื่องการเงินเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับการกู้ยืม การออม การใช้จ่าย การลงทุน และการปกป้อง SoFi ยังมอบปัจจัยที่จำเป็นสำหรับความก้าวหน้าแก่สมาชิก อาทิ การให้คำปรึกษาด้านอาชีพและการทำงาน และการเชื่อมต่อกับชุมชนที่มีความเจริญก้าวหน้าอันเต็มไปด้วยผู้คนที่มีความมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ
SoFi และ Blink โดยชับบ์ ต่างมีความมุ่งมั่นในการนำเสนอแผนประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคลที่ไม่ซับซ้อน สามารถเข้าใจได้ง่าย ในราคาที่คุ้มค่า เพื่อปกป้องผู้บริโภคในโลกที่มีการเชื่อมต่อกันผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น
Blink Cyber
ไม่ว่าคุณจะใช้บัญชีโซเชียลมีเดียในชีวิตประจำวันหรือเป็นเจ้าของอุปกรณ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ (Smart Home Device) เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมส่วนตัวของคุณ โลกดิจิทัลที่กำลังเติบโตก็ได้เพิ่มช่องว่างให้ผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามารุกล้ำการควบคุมของเรา และ Blink Cyber คือวิธีที่ง่ายดายเพื่อมอบความคุ้มครองที่เหมาะสมในเวลาที่ต้องการ
นี่คือวิธีที่แผนประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคลจาก Blink โดยชับบ์ ช่วยปกป้องคุณ ด้วยราคาเบี้ยประกันเพียงประมาณ $5.00/เดือน โซลูชันในแอปฯ Blink Cyber มอบความคุ้มครองสูงสุด $10,000 ที่ครอบคลุมความเสี่ยงภัยต่าง ๆ บนโลกไซเบอร์ อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มได้สูงสุด 5 ครัวเรือน เพื่อปกป้องโลกดิจิทัลของผู้บริโภคที่มีการใช้ร่วมกัน
ความคุ้มครอง
Blink Cyber คือกรมธรรม์ประกันภัยที่ได้รับการออกแบบเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการโจมตีหรือละเมิดทางไซเบอร์ กรมธรรม์ประกันภัยนี้คุ้มครองเงินชดเชยที่เกี่ยวข้องกับเหตุไม่คาดคิดทางไซเบอร์ส่วนบุคคล อาทิ การกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์ การหลอกลวงบนทางออนไลน์ (phishing scams) การขู่กรรโชกทรัพย์ด้วยแรนซัมแวร์ (ransomware extortion) และการฉ้อโกงทางการเงินบนโลกไซเบอร์
ธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินในประเทศชิลีใช้ AI กับการมอบข้อเสนอประกันภัยแบบผสมผสาน
ด้วยจุดยืนในการส่งเสริมการผสมผสานกันของระบบดิจิทัลและการเงินเข้าด้วยกัน Tenpo ได้แสวงหาวิธีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่สร้างประสบการณ์ในการใช้งานได้ง่ายและสะดวก โดยการเสนอราคาเบี้ยประกัน การชำระบิล และการจัดการบัญชีเป็นการทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัลทั้งหมด
Tenpo เป็นธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินแห่งหนึ่งในประเทศชิลีที่เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของบริษัท Krealo บริษัทในเครือของ Grupo Credicorp ของประเทศเปรู Tenpo มีลูกค้ามากกว่าล้านราย ให้บริการบัญชีธนาคาร บัตรเติมเงิน บริการโอนเงิน และการชำระบิลต่าง ๆ โดยแอปฯ ของบริษัทมีบริการบัญชีดิจิทัลและบัตรเติมเงิน Mastercard รวมถึงการจัดการการเงินส่วนบุคคล การลงทุน และการโอนเงินระหว่างประเทศโดยใช้ AI เป็นพื้นฐาน
ความท้าทาย
Tenpo ร่วมมือกับชับบ์เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมประกันภัยของภูมิภาคที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา โดยการนำเสนอช่องทางใหม่เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคที่ไม่มีความคุ้มครองด้านการประกันภัยอย่างเพียงพอ ซึ่งลูกค้าจำนวนมากทั่วทั้งภูมิภาคสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือและดิจิทัลได้แล้ว และเป้าหมายของ Tenpo คือการทำให้ผลิตภัณฑ์ประกันสามารถซื้อได้ง่ายผ่านช่องทางเหล่านี้
ชับบ์มีส่วนช่วยอย่างไร
ชับบ์และ Tenpo ได้ร่วมมือกันในระดับภูมิภาค เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลที่ได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับลูกค้าของแอปฯ หลายล้านคนในประเทศชิลี และสำหรับผู้ใช้ทั่วเขตลาตินอเมริกาในอนาคต ผลิตภัณฑ์แรกที่เปิดตัวในประเทศชิลีมอบความคุ้มครองกรณีการโจรกรรมทรัพย์สินส่วนตัวจากยานพาหนะ โดยผลิตภัณฑ์นี้มีชื่อว่า “Auto Content Plus” ที่ถูกรวมอยู่ในแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบเฉพาะเพื่อเลือกความคุ้มครองเพิ่มเติมได้ เช่น ความคุ้มครองการซื้อสินค้า กระเป๋าเงินดิจิทัล และการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เป็นต้น
ในการสมัครประกันภัย ลูกค้าจะต้องมียอดเงินคงเหลือในบัญชีของ Tenpo เพียงพอเพื่อชำระค่าเบี้ยประกันงวดแรก โดยผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านนายหน้าประกันภัย และรายละเอียดความคุ้มครองจะส่งให้กับลูกค้าในแอปฯ ทันทีที่มีการซื้อประกัน จะได้รับการยืนยันในอีเมลที่ส่งให้หลังจากการสมัคร
การเติบโตที่ได้รับการสนับสนุนจาก AI
Tenpo ยังก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งเมื่อผนวกกับแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับดิจิทัลเป็นอันดับแรกในการจัดการด้านสินไหมทดแทนจะช่วยส่งเสริมการบริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และนี่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Tenpo สามารถต่อยอดธุรกิจไปยังตลาดอื่น ๆ ในทวีปอเมริกาใต้นอกเหนือจากประเทศชิลีได้
คุณมีประกันอะไรหรือซื้อประกันอะไรเป็นประจำ?
ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงชอบซื้อประกันบางประเภทผ่านช่องทางแบบดั้งเดิม ผู้บริโภคจำนวนมากจากการสำรวจ (65%) กล่าวว่ามีแบบประกันที่พวกเขาจะซื้อคือต้องจากนายหน้าประกันภัยเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวแตกต่างกันไปเพียงเล็กน้อยตามภูมิภาค โดย 70% ของผู้บริโภคในเอเชียกล่าวว่าพวกเขาจะซื้อประกันบางประเภทเมื่อได้มีปฏิสัมพันธ์กับนายหน้าประกันและจะไม่ซื้อแบบดิจิทัล เมื่อเทียบกับ 65% ในลาตินอเมริกา 64% ในอเมริกาเหนือ และ 60% ในยุโรป อย่างไรก็ตาม ยิ่งผู้บริโภคอายุน้อยเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะรู้สึกสบายใจที่จะซื้อประกันประเภทใดก็ได้แบบดิจิทัลมากขึ้นเท่านั้น
มีประกันประเภทใดบ้างที่คุณจะซื้อเฉพาะเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับนายหน้าประกันภัย (ไม่ใช่แบบดิจิทัล)? เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ตอบว่า “ใช่”
แม้ว่าจะมีความแตกต่างตามอายุ แต่ Amy McNeece ปฏิเสธความคิดที่อิงตามฐานของอายุ เธอเน้นว่าแม้ว่าข้อมูลอาจเอนเอียงไปยังผู้บริโภคที่อายุน้อยเนื่องจากเป็นผู้ที่เข้าใจดิจิทัลมากกว่า แต่การวิเคราะห์ไม่ได้สอดคล้องกันในทุกกรณี “ฉันคิดว่าเป็นในแง่ของการวางแนวทางดิจิทัลมากกว่าอายุ” เธอกล่าว
Isabella Carvalho, Head of Digital, Asia Pacific, Chubb
ในแง่นี้ การประกันภัยดิจิทัลแบบผสมสาน ก็เหมือนกับประสบการณ์แบบ Amazon ที่รวดเร็วและใช้งานง่าย ดังนั้น โมเดลที่ผสมผสานไว้อาจเป็นตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับการประกันภัยแบบจ่ายครั้งเดียว—กรมธรรม์ที่ไม่ต้องการการตอบคำถามมากมาย และโดยทั่วไปมักจะเป็นทางเลือกใช่หรือไม่ใช่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลิตภัณฑ์ประกันภัยบางอย่างจำเป็นต้องได้รับ การอธิบายที่ชัดเจนกว่าผลิตภัณฑ์อื่นๆ การซื้อประกันความล่าช้าสำหรับการเดินทางแบบเส้นทางเดียวกันนั้นแตกต่างจากการซื้อประกันทุพพลภาพอย่างมาก Israel Rayan หัวหน้าแผนกผู้บริโภคของชับบ์ ประจำภาคพื้นยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ (CEMENA) ตั้งข้อสังเกตว่าแม้แต่ใน Amazon ผู้บริโภคบางรายก็ใช้เวลาศึกษาตนเองเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ โดยการอ่านบทวิจารณ์และในขณะที่ผู้บริโภคบางรายรู้สึกสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว คนอื่นๆ อาจต้องการเสริมการซื้อออนไลน์ด้วยการพูดคุยกับนายหน้าประกันภัย—ผ่านวิดีโอหรือเจอตัวจริง
มีผู้บริหารทางการเงินเพียง 12% ทั่วโลกที่เชื่อว่าการประกันภัยดิจิทัลแบบผสมผสานนั้นส่วนใหญ่มีไว้สำหรับลูกค้าอายุน้อย
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการประกันภัยแบบผสมผสาน สถาบันทางการเงินจำเป็นต้องออกแบบการเดินทางของลูกค้าอย่างรอบคอบโดยเลือกช่องทางที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าที่เหมาะสม
อุปสรรคในการเข้าสู่ธุรกิจประกันภัยมีสูงเนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ต้องการใบอนุญาตและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ความเชี่ยวชาญด้านการรับประกันภัย ข้อมูลคณิตศาสตร์ประกันภัย และการดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เนื่องจากการยืนหยัดในธุรกิจประกันภัยตั้งแต่เริ่มต้นนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับสถาบันทางการเงิน การเป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันภัยคือหนทางที่ดีที่สุด
เมื่อสถาบันทางการเงินตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกพันธมิตร พวกเขาต้องเผชิญกับจุดที่ต้องตัดสินใจ: สถาบันการเงินสามารถเป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันที่จัดตั้งขึ้นหรือบริษัทประกันที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ใหม่กว่า การวิจัยของชับบ์เผยให้เห็นว่าโดยทั่วไปแล้วความร่วมมือเหล่านี้ก่อตัวขึ้นอย่างไร เป็นตัวอย่างสุภาษิตที่ว่านกน้อยช่วยกันสร้างรัง ฟินเทคมักจะเป็นพันธมิตรกับอินชัวร์เทค และธนาคารที่มีความมั่นคงมักจะชื่นชอบบริษัทประกันที่มีความมั่นคง
ข้อใดต่อไปนี้อธิบายถึงพันธมิตรด้านการประกันภัยแบบผสมผสานดิจิทัลของคุณได้ดีที่สุด?
การผสมผสานดังกล่าวไม่ได้ให้ประโยชน์สูงสุดเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของฟินเทค การเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทประกันที่มีประสบการณ์นั้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อฟินเทค เนื่องจากในฐานะองค์กรขนาดเล็ก ฟินเทคมักไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยเมื่อพวกเขาแนะนำข้อเสนอประกันเป็นครั้งแรก “พวกเขาอาจเพิ่มหนึ่งหรือสองคนหลังจากผลิตภัณฑ์ประกันภัยเริ่มขายเท่านั้น” Valiente กล่าว ในขณะเดียวกันธนาคารที่จัดตั้งขึ้นอาจมีผู้เชี่ยวชาญด้านการประกันภัยหลายร้อยคนอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
ประโยชน์อีกประการหนึ่งจากการเป็นพันมิตรระหว่างประกันภัยที่มีความมั่นคงและฟินเทค คือในความเป็นจริงแล้วผู้บริโภคไว้วางใจแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับมากกว่าที่พวกเขาไว้วางใจฟินเทคเมื่อซื้อประกัน: ประมาณหนึ่งในสามของผู้บริโภคไว้วางใจธนาคารในการซื้อประกันผ่านดิจิทัลเท่านั้น ในขณะที่เกือบสองเท่า หลายคนไว้วางใจธนาคารที่มีความมั่นคงหรือบริษัทประกัน
นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฟินเทคสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ด้วยการร่วมมือกับบริษัทประกันที่มั่นคงอย่างไรก็ตาม สถาบันทางการเงินดูเหมือนจะมีจุดบอดในการเลือกพันธมิตรด้านการประกันภัย: แม้ว่าผู้บริโภคของพวกเขาจะมีความไว้วางใจในแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับมากกว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์ดิจิทัลเพียงอย่างเดียว แต่มีสถาบันทางการเงินเพียง 10% เท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือในพันธมิตรด้านการประกันภัยของตน
ระดับความน่าเชื่อถือที่ทำให้คุณตัดสินใจซื้อประกันมาจากอะไร?
(ผู้ตอบแบบสอบถามที่แสดงความไว้เนื้อเชื่อใจและไว้วางใจในระดับสูง)
จุดบอด: ในขณะที่ผู้บริโภคทั่วโลกมีความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับสูงกว่าบริษัทประกันที่มาใหม่ โดยขายผ่านทางดิจิทัลเพียงอย่างเดียว แต่มีสถาบันทางการเงินเพียง 10% จากทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่น่าเชื่อถือในพันธมิตรด้านการประกันภัยของตน
การแยกแยะระหว่างบริษัทประกันที่มีความมั่นคงกับบริษัทประกันภัยที่เป็นดิจิทัลนั้นเริ่มคลุมเครือ ผู้ให้บริการทางการเงินส่วนใหญ่ทั่วโลกกำลังร่วมมือกับบริษัทประกันภัยดิจิทัลเพื่อให้บริการการประกันภัยแบบผสมผสาน กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดถึง 44% กำลังนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านประกันภัยในรูปแบบดิจิทัล ขณะที่อีก 35% ร่วมมือกับบริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันก็เกิดความสับสนว่าอะไรกันแน่ที่ประกอบกันเป็นบริษัท “อินชัวร์เทค”
ตัวอย่างเช่น ในอดีตคู่แข่งของชับบ์ เคยเป็นบริษัทประกันภัยแบบดั้งเดิมมาก่อน ทุกวันนี้ เนื่องจากความสามารถด้านดิจิทัลของชับบ์และการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีประกันภัยทั่วโลก ชับบ์พบว่าตัวแทนที่ขายผ่านดิจิทัลกำลังแข่งขันกันในตลาดประกันภัยมากขึ้นเรื่อย ๆ
ของผู้บริหารของสถาบันทางการเงินทั่วโลกยอมรับว่าบริษัทประกันที่มีความมั่นคงมีความได้เปรียบกว่าบริษัทประกันภัยดิจิทัลเท่านั้น เพราะพวกเขาได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า
แนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลคือคุณลักษณะสำคัญอย่างยิ่งที่จำเป็นต้องมีในพันธมิตรประกันภัย ผู้บริหารทางการเงินทั่วทุกภูมิภาคต่างเห็นพ้องต้องกัน
Amy McNeece, Senior Vice President of Digital Consumer Partnerships
ธนาคารและฟินเทคต้องการทราบแบบชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ประกันภัยส่งผลต่อ NPS อย่างไร รวมถึงการรักษาฐานลูกค้า หรือการหาลูกค้าใหม่
พวกเขายังต้องการทดสอบผลลัพธ์เหล่านี้จากวิธีการนำเสนอประกัน ประเภทของผลิตภัณฑ์ ราคาผลิตภัณฑ์ และตัวแปรอื่น ๆ
McNeece กล่าวว่า “ความพร้อมใช้งานของเครื่องมือที่ใช้ทดสอบและผลการวิเคราะห์เป็นส่วนสำคัญของการเป็นพันมิตรกับประกันภัยที่มีความเชี่ยวชาญ” จากนั้นการทดสอบอย่างต่อเนื่องจะตามมาด้วยการปรับแต่งและปรับเปลี่ยนตัวแปรเมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามา เพื่อให้เกิดความสอดคล้องอย่างต่อเนื่องกับการนำเสนอประกันบนเส้นทางการซื้อของผู้บริโภค
อะไรคือคุณลักษณะที่สำคัญที่สุดสำหรับพันธมิตรประกันภัยที่จะช่วยให้บริษัทของคุณประสบความสำเร็จในการประกันภัยแบบผสมผสาน? (3 อันดับแรก)
ความท้าทายอันดับต้น ๆ ในการประสบความสำเร็จสำหรับประกันภัยแบบผสมผสาน คือความท้าทายภายนอกกับพันธมิตร หรืออุปสรรคภายในองค์กรที่ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและผู้คน
อะไรคือความท้าทายสูงสุดที่คุณพบกับพันธมิตรทางธุรกิจของประกันภัยแบบผสมผสานในปัจจุบันของคุณ? (3 อันดับแรก)
“เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในความท้าทายสามอันดับแรกในแต่ละภูมิภาค ดังนั้นจึงมีสองสามวิธีในการแก้ปัญหา” McNeece กล่าว “อันดับแรกสิ่งสำคัญคือต้องมีทีมที่ทำงานร่วมกันโดยมีเป้าหมายเดียวกัน ประการที่สอง คือการทำให้เทคโนโลยีง่ายขึ้นและทำให้ใช้งานได้จากฝ่ายบริษัทประกันภัย และพันธมิตรทางการเงินใช้ความพยายามน้อยที่สุด”
Amy McNeece, Senior Vice President of Digital Consumer Partnerships
หลังจากประสบความสำเร็จในด้านนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลัก สถาบันทางการเงินก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นไปอีกระดับและขยายการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลไปสู่การเสนอขายประกันภัย ผู้บริโภคพร้อมสำหรับการจัดส่งประกันภัยแบบดิจิทัล โดยเกือบครึ่งหนึ่งกล่าวว่าดิจิทัลเป็นวิธีที่ชัดเจนในการซื้อประกันภัยและผู้บริโภคยังต้องการประกันเพิ่มเติมที่รับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน มากกว่าครึ่งรู้สึกว่าต้องทำประกันเพิ่ม
การประกันภัยแบบผสมผสานเป็นวิธีการใช้ดิจิทัลในการนำเสนอการประกันภัยประเภทต่าง ๆ แม้ว่าการทำประกันเป็นข้อเสนอที่ซับซ้อน แต่ก็มีหลายวิธีที่สถาบันทางการเงินสามารถช่วยให้การประกันภัยแบบผสมผสานประสบความสำเร็จได้:
หากคุณพร้อมที่จะขยายธุรกิจด้วยประกันภัยแบบผสมผสาน ขั้นตอนต่อไปเพียงติดต่อเรา เราจะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถส่งเสริมธุรกิจของคุณได้อย่างไร เราจะทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาโซลูชันที่ดีที่สุดสำหรับคุณและลูกค้าของคุณ เพื่อให้คุณสามารถดำเนินการต่อได้อย่างรวดเร็ว