สอนวิธียื่นภาษีออนไลน์แบบเข้าใจง่ายในทุกขั้นตอน
ในปัจจุบันที่การทำงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจกังวลถึงความมั่นคงในชีวิตหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วย คลอดบุตร ว่างงาน หรือเสียชีวิต ประกันสังคม จึงเปรียบเสมือนหลักประกัน ที่ช่วยให้ผู้ประกันตนมีความมั่นใจ เผชิญเหตุการณ์เหล่านี้ได้อย่างมั่นคง บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประกันสังคม มาตรา 33, 39 และ 40 ให้ทุกคนทราบถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
ประกันสังคม (Social Security Fund) คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่มีรายได้ และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับผิดชอบเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตรทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์ ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และมีการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้ซึ่งจ่ายเงินสมทบให้แก่กองทุนประกันสังคมอันก่อให้เกิดสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม
กองทุนประกันสังคม (Social Security Fund) เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลไทย เพื่อเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานในการดำรงชีวิตให้แก่ลูกจ้างที่มีรายได้ในประเทศ โดยใช้บังคับกับสถานประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป โดย นายจ้างและลูกจ้าง ต้องร่วมกันจ่ายเงินสมทบ เข้ากองทุนฝ่ายละเท่า ๆ กัน เพื่อให้ความคุ้มครองลูกจ้าง จากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน
ระบบประกันสังคมไทยได้จัดแบ่งผู้ประกันตนออกเป็นหลายประเภท เพื่อให้ครอบคลุมแรงงานในทุกภาคส่วน มาทำความรู้จักกับประเภทของผู้ประกันตนที่มีอยู่ในปัจจุบันกัน
การตรวจสอบสิทธิประกันสังคมเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกันตนควรทำอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันมีวิธีการตรวจสอบที่สะดวกรวดเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ มาดูกันว่ามีวิธีใดบ้าง
มี 3 วิธีหลัก ๆ ในการเช็กสิทธิประกันสังคมด้วยเลขบัตรประชาชนแบบออนไลน์ ดังนี้
ติดตั้งแอปพลิเคชันและลงทะเบียน
กรอกข้อมูลส่วนตัวและตั้งรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน
เลือกเมนู "ตรวจสอบสิทธิ"
ระบบจะแสดงข้อมูลสิทธิประกันสังคม เช่น สถานะการเป็นผู้ประกันตน ประเภทการประกัน สถานะการจ่ายเงินสมทบ สถานพยาบาลที่ใช้สิทธิ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" เป็นช่องทางออนไลน์ที่รัฐบาลพัฒนาขึ้นเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐต่าง ๆ ได้สะดวก รวดเร็ว ง่ายดาย ผ่านสมาร์ทโฟน โดยหนึ่งในบริการสำคัญบนแอปพลิเคชันนี้คือ
การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม โดยบริการที่สามารถตรวจสอบได้นั้น มีหลากหลายด้วยกัน เช่น เช็กยอดเงินประกันสังคม สิทธิโครงการเยียวยา ยอดเงินสมทบชราภาพ สถานพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ทางรัฐ บนมือถือได้ทั้งระบบ IOS และ AndroidiOS : https://apple.co/3CzuUqj
Android : https://bit.ly/3lNngmo
เข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านที่ตั้งไว้
เลือกเมนู "ประกันสังคม"
เลือก "ตรวจสอบสิทธิ"
กรอกเลขบัตรประชาชน
กด "ค้นหา"
ข้อมูลสิทธิประกันสังคมจะแสดงบนหน้าจอ
หากไม่สามารถลงทะเบียนตาม 3 ช่องทางที่ได้กล่าวไปข้างต้นได้และมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อ โทรสอบถาม รายละเอียดสำนักงานประกันสังคมได้ที่สายด่วน 1506
ประกันสังคมมาตรา 33 และ 39 มอบสิทธิประโยชน์มากมายให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การเจ็บป่วยไปจนถึงการเกษียณอายุ มาทำความเข้าใจกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับกัน
1. สิทธิประกันสังคมกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน
ความคุ้มครอง: ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลที่อยู่ในเครือข่ายของโรงพยาบาลตามสิทธิฯ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เงินทดแทนจากการขาดรายได้: ร้อยละ 50 ของค่าจ้างจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 90 วัน ปีละไม่เกิน 180 วัน/ปี ยกเว้นโรคเรื้อรัง มีสิทธิได้ไม่เกิน 365 วัน
ทันตกรรม: เบิกได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 900 บาท/ปี (กรณีถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฝันคุด)
2. สิทธิประกันสังคมกรณีคลอดบุตร
ผู้ประกันตนหญิง
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร
ความคุ้มครอง: เงินค่าคลอดบุตร จำนวน 15,000 บาท ต่อการคลอดบุตรหนึ่งครั้ง และยังสามารถเบิกค่าตรวจและรับฝากครรภ์ เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน ได้สูงสุดจำนวน 1,500 บาท
เงินสงเคราะห์หยุดงานเพื่อคลอดบุตร: ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย 90 วัน (ไม่เกิน 2 ครั้ง)
สำหรับผู้ประกันตนชาย ให้แนบสำเนาทะเบียนสมรส กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรส โดยจะได้รับเฉพาะค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย จำนวน 15,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง
3. สิทธิประกันสังคมกรณีทุพพลภาพ
4. สิทธิประกันสังคมกรณีเสียชีวิต
เงินทดแทน: ค่าทำศพ: 50,000 บาท และ เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ดังนี้
5. สิทธิประกันสังคมกรณีสงเคราะห์บุตร
เงินทดแทน: ได้รับ 800 บาท/เดือน/คน แต่ไม่เกิน 3 คน ตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
6. สิทธิประกันสังคมกรณีชราภาพ
เงินบำนาญ:
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน: ร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
- จ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน: ให้เพิ่ม 1.5% จากอัตรา 20% ในทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
เงินบำเหน็จ:
- กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ
- กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ
7. สิทธิประกันสังคมกรณีว่างงาน
เงินทดแทน:
- กรณีถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
- กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
สำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ มีอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย หรือแรงงานนอกระบบ แต่อยากใช้สิทธิประกันสังคม สามารถทำได้ดังนี้
สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40
คุณสมบัติ:
ขั้นตอนการสมัคร:
ผู้ประกันตนมาตรา 40 มีทางเลือกในการจ่ายเงินสมทบที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละทางเลือกก็จะให้สิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป มาทำความเข้าใจกับสิทธิประโยชน์ในแต่ละทางเลือกกัน
สิทธิประโยชน์คุ้มครอง 3 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย
1. สิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย
เจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน แต่ไม่เกิน 30 วันต่อปี
กรณีไม่ได้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล(ผู้ป่วยนอก) แต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดงานตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท รวมกันไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี
ไปพบแพทย์ (ผู้ป่วยนอก) และแพทย์ไม่สั่งให้หยุดพักรักษาตัว หรือให้หยุดพักรักษาตัวน้อยกว่า 3 วัน (มีใบรับรองแพทย์) จะได้รับค่าชดเชยครั้งละ 50 บาท ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี
2. สิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพ
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 15 ปี
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนใน 10 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 500 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนใน 20 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 650 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือนใน 40 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 800 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 36 เดือนใน 60 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 1,000 บาท
3. สิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิต
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นค่าทำศพ 25,000 บาท และหากผู้ประกันตนจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมครบ 60 เดือนก่อนเสียชีวิต จะได้รับเงินสมทบเพิ่มอีก 8,000 บาท
สิทธิประโยชน์คุ้มครอง 4 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย และกรณีชราภาพ
1. สิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย
เจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน แต่ไม่เกิน 30 วันต่อปี
กรณีไม่ได้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาล(ผู้ป่วยนอก) แต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดงานตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท รวมกันไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี
ไปพบแพทย์ (ผู้ป่วยนอก) และแพทย์ไม่สั่งให้หยุดพักรักษาตัว หรือให้หยุดพักรักษาตัวน้อยกว่า 3 วัน (มีใบรับรองแพทย์) จะได้รับค่าชดเชยครั้งละ 50 บาท ไม่เกิน 3 ครั้งต่อปี
2. สิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพ
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 15 ปี
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนใน 10 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 500 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนใน 20 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 650 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือนใน 40 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 800 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 36 เดือนใน 60 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 1,000 บาท
3. สิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิต
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นค่าทำศพ 25,000 บาท และหากผู้ประกันตนจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมครบ 60 เดือนก่อนเสียชีวิต จะได้รับเงินสมทบเพิ่มอีก 8,000 บาท
4. สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 50 บาท ต่อ/เดือน (ตามจำนวนงวดที่จ่ายเงินสมทบบวกเงินออมเพิ่ม) พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนรายปีตามที่สำนักงานประกาศกำหนด
สิทธิประโยชน์คุ้มครอง 5 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย กรณีชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร
1. สิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย
เจ็บป่วยนอนโรงพยาบาลทดแทนการขาดรายได้สูงสุด 300 บาทต่อวัน
กรณีไม่ได้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล(ผู้ป่วยนอก) หากมีใบรับรองแพทย์ให้หยุดงานตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชยวันละ 200 บาท
กรณีเป็นผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกรวมกัน ได้รับเงินชดเชยไม่เกิน 90 วันต่อปี
2. สิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพ
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ต่อเดือน ตลอดชีวิต
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนใน 10 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 500 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนใน 20 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 650 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 24 เดือนใน 40 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 800 บาท
จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 36 เดือนใน 60 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ ได้รับ 1,000 บาท
3. สิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิต
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นค่าทำศพ 50,000 บาท จ่ายให้กับผู้จัดการศพ
4. สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเดือนละ 150 บาท ต่อเดือน พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนรายปีตามที่สำนักงานประกาศกำหนด
เมื่อผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินเพิ่ม 10,000 บาท
5. สิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรคนละ 200 บาทต่อเดือน ครั้งละไม่เกิน 2 คน โดยจะเริ่มได้รับสิทธิตั้งแต่บุตรแรกเกิดถึงบุตรอายุ 6 ปีบริบูรณ์
หมายเหตุ : บุตร ไม่รวมถึงบุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งได้ยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
หมายเหตุ
ประกันสังคมเป็นระบบสวัสดิการที่สำคัญสำหรับผู้ทำงานในประเทศไทย ให้ความคุ้มครองในหลายด้านตั้งแต่การเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต ไปจนถึงการว่างงานและชราภาพ ทั้งผู้ที่ทำงานประจำและผู้ประกอบอาชีพอิสระสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์นี้ได้ โดยมีทางเลือกที่หลากหลายให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการจ่ายเงินสมทบของแต่ละบุคคล การตรวจสอบสิทธิประกันสังคมสามารถทำได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงข้อมูลและใช้สิทธิประโยชน์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ดังนั้น การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากระบบประกันสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิตและการทำงานของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ประกันสังคมอาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของทุกคน การทำประกันเพิ่มเติม เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และประกันชีวิตเพื่อวางแผนเกษียณ ก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณา
ประกันชีวิต: ช่วยคุ้มครองความเสี่ยงกรณีเสียชีวิต มอบเงินก้อนให้แก่ครอบครัวเพื่อเป็นทุนการศึกษา ค่าใช้จ่าย หรือประกอบธุรกิจต่อ
ประกันสุขภาพ: ช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์: ช่วยให้มีเงินออมระยะยาว พร้อมรับผลตอบแทนจากการลงทุน
ประกันชีวิตเพื่อวางแผนเกษียณ: ช่วยให้มีเงินเพียงพอใช้หลังเกษียณอายุ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่าย
การเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการ จะช่วยให้มีหลักประกันทางการเงินที่มั่นคง และใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานประกันสังคม - https://www.sso.go.th/wpr/
สอนวิธียื่นภาษีออนไลน์แบบเข้าใจง่ายในทุกขั้นตอน
รู้เท่าทัน โซเดียม เลือกทานอาหาร เพื่อสุขภาพหัวใจและไตที่แข็งแรง
ฟอกไต วิธีรักษาโรคไตเรื้อรังที่ควรเข้าใจ
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ