ฟอกไต วิธีรักษาโรคไตเรื้อรังที่ควรเข้าใจ

ข้ามไปหน้าหลัก
การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

ฟอกไต วิธีรักษาโรคไตเรื้อรังที่ควรเข้าใจ

09/2024
ฟอกไต

เคยสงสัยไหมว่าไตทำงานหนักแค่ไหนในแต่ละวัน? เสมือนโรงงานรีไซเคิลขนาดยักษ์ที่ไม่เคยหยุดพัก ไตคัดกรอง ดูดซึม และขับของเสียออกจากร่างกายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อโรงงานรีไซเคิลนี้เริ่มสะดุด โรคไตเรื้อรังอาจคืบคลานเข้ามา ทำให้ร่างกายต้องการ ฮีโร่ มาช่วยเหลือ นั่นคือ "การฟอกไต" วิธีการที่เปรียบเสมือนทีมกู้ภัยฉุกเฉินที่เข้ามาช่วยให้ไตยังคงทำหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง

การฟอกไตไม่ใช่เพียงการรักษา แต่เป็นการมอบโอกาสให้ร่างกายได้หายใจ ได้ฟื้นฟู และได้ดำเนินชีวิตต่อไป เพราะสารพิษที่ตกค้างในร่างกายอาจเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่รอวันปะทุแล้วอยากรู้ไหมว่า การฟอกไตทำงานอย่างไร? ทำไมจึงสำคัญนักสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง? และจะเตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องเข้ารับการฟอกไต? มาค้นหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้
 

การฟอกไตคืออะไร

การฟอกไต (Dialysis) เป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ใช้แทนที่การทำงานของไตที่เสื่อมสมรรถภาพ โดยทำหน้าที่กำจัดของเสีย สารพิษ และน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย ปกติแล้วไตมีหน้าที่กรองของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากเลือด ผ่านกระบวนการปัสสาวะ เมื่อไตเสื่อมสมรรถภาพจากโรคไตวายเรื้อรังหรือภาวะไตวายเฉียบพลัน ร่างกายจะไม่สามารถกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง การฟอกไตจึงเป็นวิธีการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาการทำงานของไตสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ 
 

สัญญาณเตือนโรคไต

  • ระบบปัสสาวะทำงานผิดปกติ เช่น ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ปัสสาวะมีฟอง ปัสสาวะเป็นเลือด
  • ความดันโลหิตสูงมาก
  • อาการบวมน้ำทั้งตัว
  • ปวดหลัง ปวดเอวเกิดขึ้นเนื่องจากการสะสมของของเสียในร่างกาย
     

รักษาด้วยการฟอกไตควรเริ่มเมื่อไร 

เมื่อไตไม่สามารถกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้เหมือนเดิม สารพิษและของเสียต่าง ๆ จะถูกสะสมหรือคั่งค้างอยู่ในร่างกายอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว “การฟอกไต” จึงเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาเพื่อบำบัดการทำงานระบบขับของเสียของผู้ป่วยโรคไต ให้สามารถกำจัดของเสียออกจากร่างกายได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด อย่างไรก็ตาม โรคไตยังถูกแบ่งออกเป็น 5 ระยะด้วยกัน ซึ่งการฟอกไตจะถูกวางแผนให้ใช้ได้ในผู้ป่วยโรคไตตั้งแต่ระยะที่ 4 เนื่องจากไตสามารถทำงานได้น้อยกว่า 30% ไปแล้ว 
   

การฟอกไตมีกี่วิธี

โดยการฟอกไตสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก ดังนี้
 


1. ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis)

หนึ่งในวิธีช่วยทดแทนการทำงานของไต เพื่อช่วยกำจัดของเสียและน้ำออกจากเลือด ซึ่งใช้วิธีการคล้ายกับการให้น้ำเกลือหรือการให้เลือดปกติ โดยให้เลือดได้เข้าสู่ตัวกรองเลือดแล้วไหลกลับเข้าสู่ร่างกายใหม่ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือมากกว่า โดยผู้ป่วยต้องฟอกเลือดอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์  
 

2. ฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวร (Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis: CAPD)

วิธีฟอกไตด้วยน้ำยาช่วยกรองของเสียในร่างกายผ่านช่องท้อง โดยการฝังท่อล้างช่องท้องไว้ในช่องท้องผู้ป่วย ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้ป่วยสามารถทำเองที่บ้านหรือที่ทำงานได้ทุกวัน แต่ต้องทำการเปลี่ยนน้ำยากรองของเสียวันละ 4-5 ครั้ง พร้อมติดตามอาการ (Follow-up) ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจแพทย์เจ้าของไข้
 


สิ่งที่ต้องระมัดระวังก่อนเข้ารับการฟอกไต

สิ่งที่ต้องระมัดระวังก่อนเข้ารับการฟอกไต คือเรื่องของโรคประจำตัวและยาที่ผู้ป่วยใช้เป็นประจำ ซึ่งแพทย์จะทำการซักประวัติผู้ป่วยตั้งแต่แรก เพื่อประเมินวิธีฟอกไตและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะภาวะการติดเชื้อ ภาวะน้ำหนักเกิน ภาวะร่างกายขาดน้ำ และอื่น ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการฟอกไต นอกจากนั้น พฤติกรรมการรับประทานอาหารต้องได้รับดูแลมากเป็นพิเศษ เช่น หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารที่มีโซเดียมสูง จำกัดปริมาณเครื่องดื่ม และปฏิบัติตามคำแนะนำอื่น ๆ ของแพทย์อย่างเคร่งครัด
 
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลือกรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการอย่างสมดุล หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันห่างไกลโรคไต และเตรียมพร้อมรับมือการรักษาโรคไต หมดห่วงเรื่องค่ารักษา ด้วยแบบประกันสุขภาพโรคร้ายแรง 50 โรค ที่ให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุม เช่น โรคมะเร็งระยะไม่ลุกลามและระยะลุกลาม โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน โรคอัลไซเมอร์ และไตวายเรื้อรัง เป็นต้น เมื่อได้รับการวินิจฉัยและยืนยันจากแพทย์ในระหว่างที่ผู้เอาประกันภัยยังมีชีวิตอยู่ บริษัทฯ จะมอบเงินก้อนไว้ใช้รักษาตัวเมื่อเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากโรคร้ายแรงหมดห่วงกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น และช่วยลดภาระให้กับผู้เอาประกันรวมถึงสมาชิกในครอบครัว
 


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฟอกไต

1. ค่าไตปกติควรอยู่ที่เท่าไร?
ระยะที่ 1 มีค่าการทำงานของไต eGFR มากกว่า 90 ถือว่าอยู่ในภาวะปกติ

2. ค่าไตเท่าไรถึงต้องรักษาด้วยการฟอกไต?
ระยะที่ 5 มีค่าการทำงานของไต eGFR น้อยกว่า 15 ไตไม่สามารถทำงานได้เกิดเป็นภาวะไตวาย

3. การฟอกไตช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นอย่างไร
การฟอกไตจะช่วยล้างสารพิษและของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกายออกไป ทำให้ร่างกายมีสภาพแข็งแรงมากขึ้นและลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

4. ฟอกไตใช้สิทธิ 30 บาท หรือบัตรทองได้หรือไม่
สามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาทได้ โดยผู้ป่วยไตวายเรื้อรังใช้สิทธิบัตรทอง รับบริการฟอกไต ด้วยเครื่องล้างไตทางหน้าท้องอัตโนมัติ (APD) ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดติดต่อได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

5. ล้างไตกับฟอกไตเหมือนกันหรือไม่
คำว่า "ล้างไต" กับ "ฟอกไต" คือกระบวนการรักษาที่ทดแทนการทำงานของไตที่เสื่อมสมรรถภาพ เหมือนกัน แต่ในบางบริบทใช้ในความหมายที่แตกต่างกัน เช่น การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis) หรือ การฟอกไตทางหลอดเลือด (Hemodialysis) ซึ่งก็สามารถใช้แทนกันได้เช่นกัน โดยวิธีบำบัดทดแทนไตแบ่งออกได้ 3 แบบ ได้แก่ การล้างไตผ่านทางช่องท้อง การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการปลูกถ่ายไต

6. การฟอกไต มีกี่แบบ และทำได้วันละกี่ครั้ง
มี 2 แบบ คือ การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม โดยผู้ป่วยต้องฟอกเลือดอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และการฟอกไตทางช่องท้องแบบถาวร ซึ่งต้องทำการเปลี่ยนน้ำยากรองของเสียวันละ 4-5 ครั้ง พร้อมติดตามอาการ ทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจแพทย์เจ้าของไข้

7. มีวิธีเลี่ยงการรักษาด้วยการฟอกไตหรือไม่
มี เป็นวิธีการปลูกถ่ายเปลี่ยนไตและทำการสร้างไตใหม่มาทดแทน
 

ข้อมูลอ้างอิง

ที่มา: Website : honestdocs (hd)



อ่านบทความที่น่าสนใจจากทาง ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ได้ ที่นี่

ติดต่อเรา 

ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ