เช็กสิทธิประกันสังคมด้วยเลขบัตรประชาชน ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงได้เงินคืนภาษีเยอะแยะ หรือบางคนถึงไม่ต้องเสียภาษีเลย ทั้งที่รายได้ก็พอๆ กัน? คำตอบก็คือ การลดหย่อนภาษี นั่นเอง
เมื่อพูดถึงการลดหย่อนภาษี หลายคนอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก แต่ในความเป็นจริง การลดหย่อนภาษีสามารถช่วยให้เราประหยัดเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพถ้ารู้จักวิธีการและสิทธิ์ที่มีอยู่ ในบทความนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับการลดหย่อนภาษีปี 2567 พร้อมเคล็ดลับและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะทำให้ทุกคนสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้น มาเริ่มกันเลย!
การลดหย่อนภาษี คือ สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่รัฐมอบให้แก่ประชาชนทุกคน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล หรือค่าที่อยู่อาศัย โดยการนำค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปหักออกจากเงินได้ก่อนการคำนวณภาษี ทำให้ผู้เสียภาษี เสียภาษีน้อยลง หรือในบางกรณีอาจได้เงินภาษีคืนด้วย การลดหย่อนภาษีจึงเป็นเหมือนรางวัลสำหรับคนที่วางแผนการเงินที่ดี และยังเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนใช้จ่ายในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมอีกด้วย
ง่ายๆ เลยก็คือ การลดหย่อนภาษีก็เหมือนกับการได้เงินคืนจากรัฐบาลนั่นเอง เพียงแค่ทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้บ้าง? ติดตามอ่านบทความต่อไปได้เลย
ทุกคนที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัท เจ้าของกิจการ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระก็ตาม
ข้อควรทราบ แม้ว่าทุกคนที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของรายได้และวิธีการเสียภาษีของแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ทำงานประจำและมีนายจ้างหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว ก็ยังสามารถขอคืนภาษีที่ถูกหักเกินมาได้ โดยการยื่นแบบขอคืนภาษี อย่างไรก็ตาม สำหรับรายได้บางประเภท เช่น ดอกเบี้ยเงินฝากที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้วในอัตราคงที่ อาจไม่มีสิทธิ์นำมาลดหย่อนเพิ่มเติมได้อีก
ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วน ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของรายได้ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี หรือสอบถามข้อมูลจากกรมสรรพากรโดยตรง
ส่วนประโยชน์ของการวางแผนลดหย่อนภาษี? จะมีอะไรบ้างนั้นมาเจาะลึกกันต่อได้เลย
การวางแผนภาษีไม่ใช่แค่การลดหย่อนภาษี แต่ยังช่วยให้
เมื่อเข้าใจถึงประโยชน์ของการวางแผนภาษีแล้ว มาทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับรายการลดหย่อนภาษีที่สามารถนำไปใช้ได้ในปี 2567 กันเลย
ค่าลดหย่อนส่วนบุคคล: ผู้มีเงินได้ 60,000 บาท คู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ 60,000 บาท บุตรชอบด้วยกฎหมาย 30,000 บาทต่อคน บุตรที่เกิดในปี 2561 เป็นต้นไป สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท (ไม่จำกัดจำนวน) บุตรบุญธรรม 30,000 บาทต่อคน (รวมกันไม่เกิน 3 คน)
ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 60,000 บาท
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา: ลดหย่อนได้ 30,000 บาทต่อคน (รวมบิดามารดาของคู่สมรส) บิดามารดาต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไปและมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี
เปลี่ยนจากเรื่องใกล้ตัว มาพูดถึงเรื่องการลงทุนกันบ้าง สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับการออมและการลงทุน จะช่วยให้สามารถลดหย่อนภาษีจากการลงทุนจะช่วยให้ทุกคนมีเงินเก็บเพื่ออนาคตได้มากขึ้น
เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) : ลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.): ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF): ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 500,000 บาท ต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปี และไถ่ถอนเมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป
ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF): ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 200,000 บาท ต้องลงทุนอย่างน้อย 10 ปี (มาตรการชั่วคราว อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)
เงินลงทุนในกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise): ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
ค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX): ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท ต้องลงทุนอย่างน้อย 10 ปี ต้องลงทุนในหุ้นไทยอย่างน้อย 65% (มาตรการชั่วคราว อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต)
นอกจากการออมและการลงทุนแล้ว การทำประกันภัยก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ มาดูกันว่ามีประกันประเภทไหนบ้างที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
เงินประกันสังคม: ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง
มาตรา 33 (สำหรับลูกจ้าง หรือมนุษย์เงินเดือน): หักได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี
มาตรา 39 (สำหรับผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และต้องการรักษาสิทธิ): หักได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 5,184 บาทต่อปี
มาตรา 40 (สำหรับแรงงานอิสระหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ):
- ทางเลือกที่ 1: หักได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 840 บาทต่อปี
- ทางเลือกที่ 2: หักได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี
- ทางเลือกที่ 3: หักได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 3,600 บาทต่อปี
เบี้ยประกันชีวิต: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ต้องเป็นกรมธรรม์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
เบี้ยประกันสุขภาพและเบี้ยประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับประกันชีวิต ต้องไม่เกิน 100,000 บาท
เบี้ยประกันสุขภาพของบิดามารดา ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท (บิดามารดามีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป)
เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ: ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 200,000 บาท เมื่อรวมกับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน หรือ กอช. แล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท
จากการพูดถึงประกันชีวิต มาต่อกันที่สินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงอย่างที่อยู่อาศัยกันบ้าง สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับที่อยู่อาศัย จะช่วยให้การมีบ้านเป็นของตัวเองง่ายขึ้น
ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท
ค่าซ่อมแซมอาคารที่อยู่อาศัย: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท ใช้ได้สำหรับการซ่อมแซม ต่อเติม หรือปรับปรุงอาคารที่อยู่อาศัย ต้องเป็นการจ้างผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น
นอกจากการลงทุนในตนเองแล้ว การให้กลับคืนสู่สังคมก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเงินบริจาค จะช่วยให้ได้ทำบุญและลดหย่อนภาษีไปพร้อมกัน
เงินบริจาคทั่วไป: ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย
เงินบริจาคเพื่อการศึกษา สาธารณสุข และการกีฬา: 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย
เงินบริจาคพรรคการเมือง: ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท และไม่เกิน 5% ของเงินภาษีที่ต้องชำระ
เงินบริจาคให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.): ลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายการบริจาคอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่าย
เงินบริจาคให้แก่สถาบันอุดมศึกษาเพื่อสนับสนุนการศึกษา: ลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายการบริจาคอื่นๆ แล้วต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่าย
จากเรื่องของการทำบุญ มาพูดถึงเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจกันบ้าง สิทธิลดหย่อนภาษีตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะช่วยให้ทั้งประชาชนและผู้ประกอบการได้รับประโยชน์
(มาตรการเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกปี ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล)
Easy e-Receipt 2567 สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 50,000 บาท ตามที่จ่ายจริง สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการที่มีใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567
ค่าลดหย่อนเที่ยวเมืองรอง 2567: ลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท ใช้ได้ใน 55 จังหวัดรอง ครอบคลุม: ค่าบริการท่องเที่ยว ค่าแพ็คเกจทัวร์ ค่าที่พัก ระยะเวลา: 1 พฤษภาคม – 30 พฤศจิกายน 2567
ทั้งนี้ ต้องย้ำว่ารายการลดหย่อนภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีภาษี และบางรายการอาจเป็นมาตรการชั่วคราว ดังนั้น ผู้เสียภาษีควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากกรมสรรพากรก่อนการวางแผนภาษีและยื่นแบบแสดงรายการภาษีเสมอ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของการลดหย่อน แต่เป็นการยกเว้นภาษีหรือการคำนวณภาษีในอัตราพิเศษ ซึ่งผู้เสียภาษีควรศึกษาเพิ่มเติมเพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างครบถ้วน
รู้หรือไม่ว่า การทำประกันบางประเภทสามารถช่วยให้ประหยัดภาษีได้หลายหมื่นบาทต่อปี? อยากรู้ว่ามีประกันประเภทไหนบ้างที่น่าสนใจ ลองมาดูกันเลย
ลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
กรมธรรม์ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ผู้เอาประกันต้องเป็นผู้จ่ายเบี้ยประกันเอง
เกร็ดความรู้: หากคู่สมรสไม่มีรายได้ สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสมาลดหย่อนภาษีเพิ่มได้อีกด้วย
ลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท
สามารถนำไปลดหย่อนได้ทั้งของตนเองและบุพการี
เมื่อรวมกับเงินสมทบกองทุนประกันสุขภาพแห่งชาติแล้วต้องไม่เกิน 25,000 บาท
ข้อควรรู้: ประกันสุขภาพที่นำมาลดหย่อนได้ต้องเป็นแบบรายบุคคลเท่านั้น ไม่รวมถึงประกันอุบัติเหตุ
สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับประกันชีวิตทั่วไป
ต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
ลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท (รวมกับประกันชีวิตแบบอื่นๆ)
เคล็ดลับ: ควรพิจารณาผลตอบแทนและความคุ้มครองควบคู่กับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
4. ประกันชีวิตเพื่อวางแผนเกษียณ (ประกันชีวิตแบบบำนาญ)
ลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 200,000 บาท
เมื่อรวมกับเงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน หรือกองทุนการออมแห่งชาติแล้ว ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
ข้อควรทราบ: ประกันชีวิตแบบบำนาญต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และเริ่มจ่ายเงินบำนาญเมื่อผู้มีเงินได้อายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป
การทำประกันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะช่วยคุ้มครองความเสี่ยงในชีวิตแล้ว ยังสามารถนำเบี้ยประกันบางส่วนมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือประกันบำนาญ แต่ละประเภทก็มีวงเงินและเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีที่แตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการทำประกันให้เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
1. ลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
2. การออมและการลงทุน
3. กลุ่มประกันชีวิตและสุขภาพ
4. ที่อยู่อาศัย
5. การศึกษาและพัฒนาตนเอง
6. การบริจาค
7. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ถ้ามี)
8. อื่นๆ
สิ่งสำคัญที่ต้องระวัง
1. สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา
2. ที่ทำการไปรษณีย์
3. ทางอินเทอร์เน็ต
หมายเหตุ การยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด.50 , ภ.ง.ด.51 , ภ.ง.ด.53 และ ภ.ง.ด.54 สามารถยื่นผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรก็ได้
การลดหย่อนภาษีเป็นสิทธิประโยชน์ที่ทุกคนควรใช้ให้เต็มที่ โดยการทำความเข้าใจกับประเภทของการลดหย่อนและการวางแผนการเงินอย่างเหมาะสมจะช่วยให้สามารถประหยัดเงินได้มากขึ้น นอกจากจะช่วยลดภาระภาษีแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสังคมและเศรษฐกิจอีกด้วย
หมายเหตุ:
ขอบคุณข้อมูลจาก
เว็บไซต์กรมสรรพากร:https://www.rd.go.th/
เช็กสิทธิประกันสังคมด้วยเลขบัตรประชาชน ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
สอนวิธียื่นภาษีออนไลน์แบบเข้าใจง่ายในทุกขั้นตอน
คู่มือขอคืนภาษี รู้ก่อน ยื่นก่อน ได้เงินคืนไว ครบ จบ ในที่เดียว
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ