เวลาทำประกันเคยสงสัยหรือไม่ว่าผู้รับผลประโยชน์สามารถระบุใครได้บ้าง ได้แค่เพียงคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง แฟน หรือจะไม่ระบุใครเลยได้หรือไม่ แล้วถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์หลังจากทำประกันไปแล้วสามารถทำได้หรือไม่ วันนี้มาไขข้อสงสัยเหล่านี้กัน
ในทางกฎหมายแล้วผู้รับผลประโยชน์สามารถระบุเป็นใครก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทหรือบุคคลในครอบครัว แต่ในทางปฎิบัติของบริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ระบุผู้รับผลประโยชน์เป็นทายาทหรือบุคคลในครอบครัว เนื่องจากเกรงว่าผู้รับผลประโยชน์ที่ไม่ใช่ทายาทนั้นจะมุ่งร้ายแก่ผู้ทำประกันเพื่อหวังเงินประกันชีวิตนั้นเอง
มีหลายคนที่ยังไม่ทราบว่าผู้รับประโยชน์ ไม่ได้จำกัดเฉพาะ ครอบครัวเท่านั้น ซึ่งในทางกฎหมาย ผู้รับผลประโยชน์สามารถเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลที่มีความใกล้ชิด มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรม มีด้วยกัน 6 ลำดับ ดังต่อไปนี้
1. สามี ภรรยาตามกฎหมาย บุตรตามกฎหมาย บุตรนอกสมรสที่บิดารับรองแล้ว หรือบุตรบุญธรรม
2. บิดา มารดา
3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
4. พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
5. ปู่ ย่า ตา ยาย
6. ลุง ป้า น้า อา
ในทางกฎหมายแล้วผู้รับผลประโยชน์สามารถระบุเป็นใครก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทหรือบุคคลในครอบครัว แต่ในทางปฎิบัติของบริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ระบุผู้รับผลประโยชน์เป็นทายาทหรือบุคคลในครอบครัว เนื่องจากเกรงว่าผู้รับผลประโยชน์ที่ไม่ใช่ทายาทนั้นจะมุ่งร้ายแก่ผู้ทำประกันเพื่อหวังเงินประกันชีวิตนั้นเอง
นอกเหนือจากทายาทตามกฎหมายแล้ว ผู้รับผลประโยชน์นั้นสามารถเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ นายจ้างกับลูกจ้าง พาร์ตเนอร์ เจ้าหนี้กับลูกหนี้ หรือในกรณีที่ผู้ทำประกันนั้นไม่มีญาติพี่น้อง ก็สามารถมอบผลประโยชน์นี้ให้กับองค์กรการกุศล หรือวัด ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แล้วหากต้องการระบุผู้รับผลประโยชน์เป็นแฟน คู่ชีวิต หรือคู่รักที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย นั้นสามารถทำได้หรือไม่ ? แต่ทั้งนี้จะต้องมีหลักฐานเอกสารหรือหนังสือรับรองความสัมพันธ์ระหว่างผู้ทำประกันและผู้รับผลประโยชน์มาแสดงต่อบริษัท เช่น การเปิดบัญชีเงินกู้ร่วมกัน มีชื่อในอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน การทำธุรกิจร่วมกัน เป็นต้น ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจในการพิจารณาของแต่ละบริษัทนั้น ๆ ด้วย
การขอเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ ผู้ทำประกันสามารถดำเนินการได้ตลอดระยะเวลาที่กรมธรรม์หรือประกันที่ทำไว้มีผลบังคับอยู่ เว้นแต่กรมธรรม์นั้นได้มีการส่งมอบให้แก่ผู้รับผลประโยชน์และผู้รับผลประโยชน์ได้ทำหนังสือไปยังบริษัทประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในกรณีนี้จะไม่สามารถเปลี่ยนตัวผู้รับผลประโยชน์ได้
ผู้ทำประกันสามารถระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ได้ตามต้องการ โดยจะระบุผู้รับผลประโยชน์คนเดียวหรือหลายคนก็ได้
● กรณีระบุผู้รับผลประโยชน์คนเดียว: ผู้รับประโยชน์คนนั้นจะได้รับผลประโยชน์เต็มสัดส่วน 100%
● กรณีระบุผู้รับผลประโยชน์หลายคน: ผู้ทำประกันสามารถระบุสัดส่วนของผลประโยชน์ที่แต่ละคนจะได้รับ โดยบริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ตามสัดส่วนที่ผู้ทำประกันได้กำหนดไว้ แต่หากไม่ได้ระบุสัดส่วนไว้ บริษัทประกันจะผลประโยชน์ในจำนวนที่เท่าๆ กัน ให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ทุกคนตามที่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์
ได้ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้รับผลประโยชน์ของประกันชีวิตแล้วว่า สามารถเป็นใครได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คู่ชีวิต บุตร หรือแม้แต่หุ้นส่วนทางธุรกิจ การมีประกันชีวิตไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เอาประกันรู้สึกอุ่นใจในยามที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่ยังเป็นการดูแลให้กับคนที่รักในอนาคตด้วย
ข้อมูลอ้างอิง
ที่มา: Website : scb - ธนาคารไทยพาณิชย์
อ่านบทความที่น่าสนใจจากทาง ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ได้ ที่นี่:
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ