เลือกประกันชีวิตแบบไหนดีที่เหมาะสมกับตัวเอง
บริษัทประกันชีวิตมุ่งเน้นการให้ความคุ้มครองชีวิตในระยะยาวเป็นสำคัญจึงออกแบบประกันชีวิตไว้เป็นสัญญาหลัก โดยจะมีกำหนดระยะเวลาคุ้มครอง และระยะเวลาจ่ายเบี้ยไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่เริ่มสัญญา เช่น จ่ายเบี้ย 20 ปี คุ้มครองชีวิตจนถึงอายุ 90 ปี ส่วนความคุ้มครองด้านสุขภาพ หรืออุบัติเหตุจะเป็นในรูปแบบสัญญาเพิ่มเติมที่แนบไว้กับสัญญาหลัก
ประกันชีวิต คือ สัญญาที่ทำขึ้นระหว่างผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัย (บริษัทประกัน) โดยผู้รับประกันภัยตกลงจะใช้เงินจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้รับประโยชน์ โดยอาศัยความทรงชีพหรือมรณะของบุคคลหนึ่ง และผู้เอาประกันภัยตกลงจะส่งเงิน ซึ่งเรียกว่าเบี้ยประกันภัย ให้แก่ผู้รับประกันภัย์
● ระยะเวลาชำระเบี้ยของสัญญาเพิ่มเติมจะดำเนินไปแบบปีต่อปี จ่ายเบี้ยเพื่อได้รับความคุ้มครองอีก 1 รอบปีกรมธรรม์ สามารถหยุดจ่ายได้ แต่ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากสัญญาเพิ่มเติมนั้น
● สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนความคุ้มครองได้เมื่อครบรอบปีกรมธรรม์ โดยอาจจะแจ้งล่วงหน้าก่อนภายใน 1 เดือนก่อนครบรอบปีกรมธรรม์
● เบี้ยประกันจากสัญญาเพิ่มเติมอาจเปลี่ยนแปลงตาม อายุ สุขภาพ และอาชีพ ในระหว่างสัญญาได้
● อาจมีการกำหนด ‘จำนวนความคุ้มครอง’ ขั้นต่ำสุดและสูงสุด ที่บริษัทประกันจะรับความคุ้มครองไว้ เช่น ประกันอุบัติเหตุแบบ อบ. 1 สามารถซื้อได้ไม่เกิน 3 เท่าของสัญญาหลัก เป็นต้น
● สามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด อ่านเพิ่มเติม
● คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัดแบบเหมาจ่าย: เป็นความคุ้มครองผู้ป่วยในเช่นเดียวกับข้อด้านบน แต่มีความยืดหยุ่นในวงเงินค่าใช้จ่ายมากกว่า เพราะใช้ลักษณะวงเงินก้อนใหญ่เหมาจ่ายตลอดทั้งปี
● คุ้มครองสุขภาพแบบชดเชยรายได้: บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามจำนวนวันที่ผู้เอาประกันเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือเกิดจากอุบัติเหตุก็ตาม
● คุ้มครองโรคร้ายแรง: คุ้มครองผู้เอาประกันเมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงตามลักษณะของโรคที่ได้รับความคุ้มครอง โดยจะมีทั้งการจ่ายความคุ้มครองเต็มจำนวนเงินเอาประกันภัยในคราวเดียว หรือทยอยจ่ายให้ตามระยะหรือความรุนแรงของโรคร้ายแรงที่เป็นอยู่ก็ได้
● คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก: ให้ความคุ้มครองเมื่อเข้ารักษาแบบผู้ป่วยนอก สำหรับ จ่ายเป็นค่ายา ค่าหมอ ค่าบริการทางการแพทย์ เป็นต้น โดยมากจะกำหนดวงเงินต่อการเข้ารักษาในแต่ละครั้งไว้ หากมีค่าใช้จ่ายส่วนต่างก็ต้องชำระเพิ่มเติม
สัญญาเพิ่มเติมด้านอุบัติเหตุ ความคุ้มครองที่บริษัทประกันจ่ายให้กับผู้เอาประกันเมื่อเกิดความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ โดยได้รับความคุ้มครองหลากหลาย เช่น
● การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
● การสูญเสียอวัยวะและสายตา
● ค่าชดเชยทุพพลภาพชั่วคราว
● ค่าชดเชยทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง
● ค่าชดเชยการรักษาพยาบาล (ผู้ป่วยใน)
● ค่าชดเชยการผ่าตัด
● ยกเว้นการชำระเบี้ยประกันภัย: สัญญาเพิ่มเติมที่จะช่วยยกเว้นการจ่ายเบี้ยในสัญญาหลัก หากผู้เอาประกันภัยเกิดเหตุจนเป็นบุคคลพิการไม่สามารถทำงานได้ บริษัทจะยังคงให้ความคุ้มครองชีวิตต่อไปจนครบกำหนดสัญญาหลักโดยไม่ต้องจ่ายเบี้ย
● ยกเว้นการชำระเบี้ยประกันสำหรับกรมธรรม์ผู้เยาว์: กรมธรรม์ผู้เยาว์ นั้นคือ กรมธรรม์ที่มีผู้ชำระเบี้ยเป็นคนละคนกันกับผู้เอาประกันภัย เช่น พ่อหรือแม่ทำประกันให้ลูก ซึ่งหากเกิดเหตุจนผู้ชำระเบี้ย ไม่สามารถชำระเบี้ยได้จากการเสียชีวิต หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร บริษัทจะให้ความคุ้มครองชีวิตต่อไปจนครบกำหนดสัญญาโดยไม่ต้องชำระเบี้ยอีกต่อไป
● สัญญาเพิ่มเติมแบบชั่วระยะเวลา: เป็นสัญญาเพิ่มเติมที่ให้ความคุ้มครองชีวิตเพิ่มเติมเข้าไปอีกนอกเหนือจากความคุ้มครองจากสัญญาหลัก เพื่อเป็นการเพิ่มความคุ้มครองชีวิตโดยไม่ต้องซื้อกรมธรรม์ใหม่ทดแทน
สัญญาเพิ่มเติมดังกล่าวเป็นความคุ้มครองพื้นฐานที่แต่ละบริษัทจะมีให้เลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ผู้ที่สนใจควรศึกษาถึงความต้องการความคุ้มครอง และความสามารถในการชำระเบี้ยให้ดีก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้เลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมไม่เกินความจำเป็น
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
เลือกประกันชีวิตแบบไหนดีที่เหมาะสมกับตัวเอง
ซื้อประกันชีวิตให้พ่อแม่: มอบความคุ้มครอง ดูแลคนที่เรารัก
สอนวิธียื่นภาษีออนไลน์แบบเข้าใจง่ายในทุกขั้นตอน