​​
รู้กันหรือไม่ว่า นอกจากการทำประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพแล้ว ยังมีวิธีลดหย่อนภาษีที่ช่วยให้ได้ทั้งประหยัดภาษี ได้​​ออมเงิน​​ และยังได้ลงทุนเพิ่มพูนทรัพย์ไปพร้อม ๆ กันด้วย ในบทความนี้ จะพาทุกคนไปรู้จักกับเครื่องมือทางการเงินอย่างกองทุน SSF, RMF และ ThaiESG ที่นอกจากจะช่วย​​​​ลดหย่อนภาษีแล้ว​​ ยังเป็นตัวช่วยดี ๆ ในการวางแผนการเงินตลอดชีวิตอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนวัยเริ่มทำงาน คนวัยกลางคนที่กำลังมองหาความมั่นคง หรือผู้ที่กำลัง​​​​วางแผนเกษียณ​​ บทความนี้มีคำตอบให้ทุกคนแน่นอน! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาดูกันว่าจะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการเงินเหล่านี้ให้คุ้มค่าที่สุดได้อย่างไร เพื่อให้เงินในกระเป๋าเติบโต พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีไปในตัว!​  
 

​​กองทุนรวมเพื่อการออม SSF หรือ Super Savings Fund คือ กองทุนรวมที่รัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินลงทุนระยะยาว โดย มอบสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ให้นักลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนในกองทุน SSF ไปหักลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท​​ กองทุน ​​SSF เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดภาษีและสร้างผลตอบแทนในระยะยาว มาดูกันว่า SSF มีจุดเด่นอะไรบ้างที่ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุน​

*กองทุน SSF เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ แทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่หมดอายุไปเมื่อปี 2562​
 

• ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี​
• ​​ลงทุนได้ในสินทรัพย์หลากหลาย ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ​
• ​​ไม่มีขั้นต่ำ ในการซื้อ และ ไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี​
• ​​ถือหน่วยลงทุน ไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ​
• ​​นำค่าซื้อ มาหักลดหย่อนภาษีได้ในปี 2563 - 2567​
   

​​กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) คือ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวสำหรับการใช้จ่ายยามเกษียณอายุ โดยมอบสิทธิประโยชน์ด้านภาษี ให้นักลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนในกองทุน RMF ไปหักลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับค่าลดหย่อนการออมเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท​​ กองทุน RMF เป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนเกษียณอายุ ที่ช่วยให้มีเงินใช้อย่างมั่นคงในวัยเกษียณ พร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี มาทำความรู้จักกับจุดเด่นของ RMF ที่ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการออมระยะยาว​

*กองทุน RMF มีมานานแล้ว แต่มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่ เมื่อต้นปี 2563 เพื่อให้นักลงทุนได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากขึ้น​

• ​​ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี​

• ​​ลงทุนได้ในสินทรัพย์หลากหลาย ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ​

• ​​ไม่มีขั้นต่ำ ในการซื้อ แต่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี (หรืออย่างน้อยซื้อปีเว้นปี)​

• ​​ถือหน่วยลงทุน ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์​

• ​​ได้รับเงิน เมื่อครบกำหนดอายุ โดยไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
   

​​กองทุน Thai ESG (Thailand ESG Fund) คือกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน ซึ่งมีสิทธิพิเศษให้ผู้ลงทุนสามารถนําจํานวนเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมจากกองทุน SSF และ RMF อีก 100,000 บาท ​​กองทุน ThaiESG เป็นทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุนที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนและต้องการสนับสนุนธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ลองมาดูกันว่า ThaiESG มีจุดเด่นอะไรบ้างที่ทำให้เป็นที่สนใจในวงการลงทุน​
 

• ​​กองทุน ThaiESG ลงทุนใน หุ้นและตราสารหนี้ ของบริษัทที่มีการดำเนินงานที่ยั่งยืน โดยพิจารณาจาก หลักเกณฑ์ ESG ดังนี้​
  - ​​E (Environment): การรักษาสิ่งแวดล้อม​
  - ​​S (Social): ความรับผิดชอบต่อสังคม​
  - G (Governance): การกำกับดูแลกิจการที่ดี​

• ​​ตัวอย่างบริษัทที่กองทุน ThaiESG อาจลงทุน:​

• ​​บริษัทที่ลดการปล่อยมลพิษ​

• ​​บริษัทที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน​

• ​​บริษัทที่มีธรรมาภิบาล​

• ​​วงเงินลงทุน ThaiESG แยกต่างหาก จากวงเงินลดหย่อนกลุ่มเกษียณ เช่น SSF, RMF, PVD, กบขกอช. ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน​

• ​​ไม่มีขั้นต่ำ​

• ​​ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี​

• ​​นักลงทุนสามารถลงทุนได้ตามจำนวนที่ต้องการ​

• ​​กองทุน ThaiESG เหมาะกับนักลงทุนที่มี เป้าหมายการลงทุน​
  - ต้องการลงทุนใน ธุรกิจไทยที่เน้นความยั่งยืน​
  - ต้องการลงทุนใน บริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม​
  - ​​ต้องการลงทุนใน บริษัทที่มีธรรมาภิบาล​
  - ​​ต้องการ ใช้วงเงินลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม​
   

​​กองทุน SSF (Super Savings Fund) กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) และ  ThaiESG (Thailand ESG Fund) ต่างเป็นกองทุนรวมที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถออมเงิน ลงทุน และได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี แต่มีรายละเอียดและเงื่อนไขบางประการที่แตกต่างกัน ดังนี้​
 

​​อย่างไรก็ตาม กองทุน SSF , RMF และ ThaiESG​ ​เป็นเพียง เครื่องมือทางการเงิน ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถออมเงินและลดหย่อนภาษีได้ แต่ผลตอบแทนจากการลงทุน ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของกองทุน และภาวะตลาด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบผลตอบแทนความเสี่ยง และเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงิน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ แนะนำให้เริ่มต้นจาก การศึกษา เกี่ยวกับกองทุนรวม ​​​​ประเภทของกองทุน​ ​​​วิธีการลงทุน​​ ความเสี่ยง และผลตอบแทน นอกจากนี้ ยังสามารถขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจาก ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน หรือ ตัวแทนจำหน่ายกองทุนรวม ​
 

​​การลงทุนในกองทุน SSF, RMF และ ThaiESG เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการออมเงินระยะยาวและได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี แต่ละกองทุนมีจุดเด่นและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินและความเสี่ยงที่ยอมรับได้​

​​การวางแผนการเงิน​​ที่ชาญฉลาดควรผสมผสานระหว่างการลงทุนในกองทุนและการทำประกัน ทั้งสองวิธีนี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษี กองทุน SSF, RMF และ ThaiESG เหมาะสำหรับการออมระยะยาว ในขณะที่​​ประกันชีวิต​​และ​​​​ประกันสุขภาพ​​ให้ความคุ้มครองพร้อมสิทธิลดหย่อนภาษี โดยประกันชีวิตลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาท และประกันสุขภาพอีก 25,000 บาท นอกจากนี้ การทำ​​ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์​​และ​​​​ประกันชีวิตเพื่อวางแผนเกษียณ​​ยังช่วยสร้างวินัยการออมและความมั่นคงยามเกษียณ พร้อมสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ​​ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานะทางการเงินและเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคค​​ล​

​​ขอบคุณข้อมูลจาก​

• Finnomena - กองทุน Thai ESG คืออะไร? ลดหย่อนภาษีแบบใหม่ เทียบกับ SSF RMF ต่างกันอย่างไร