ข้ามไปหน้าหลัก
การจัดการด้านการเงิน

8 วิธี สอนลูกออมเงินอย่างสนุก ปลุกจิตสำนึกรักการออม

04/2024
kid saving money


วัยเด็กเป็นวัยเรียนรู้ ครอบครัวควรเริ่มสอนการเก็บออมตั้งแต่วัยนี้เพื่อที่เมื่อโตขึ้นเขาจะได้มีนิสัยและวินัยที่ดีในการใช้จ่าย

เห็นได้ชัดว่าวัยเด็กเป็นวัยแห่งเรียนรู้ ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ หรือคนในครอบครัวต้องการปลูกฝังให้ลูก หรือเด็กๆ ในบ้านรู้จักใช้เงิน และเก็บออมก็ควรเริ่มทำตั้งแต่วัยนี้เพื่อที่เมื่อโตขึ้นเขาจะได้มีนิสัยและวินัยที่ดีในการใช้จ่าย ซึ่งนอกจากการหยอดกระปุกออมสินแล้ว ยังมีอีกหลายวิธีสร้างสรรค์ ที่ทำให้เจ้าตัวเล็กอยากเก็บออมได้มากขึ้น มีอะไรบ้างไปดูกัน

1. สร้างเป้าหมายร่วมกัน

แน่นอนว่าของเล่นกับเด็กเป็นสิ่งที่แยกขาดกันไม่ได้ และคุณพ่อคุณแม่หลายท่านก็มีกำลังพอที่จะซื้อหามาให้ลูกน้อยได้อย่างง่ายดาย แต่หากเปลี่ยนจากการซื้อให้ เป็นมาร่วมกันซื้อน่าจะเป็นวิธีที่สนุกและฝึกวินัยเจ้าตัวเล็กได้ดีกว่า โดยให้เจ้าตัวเล็กได้ลองเก็บเงินซื้อเอง ซึ่งทุกยอดการออมด้วยตัวเองจะถูกสมทบด้วยเงินจากคุณพ่อคุณแม่ หรืออาจตั้งเป็นกติกา เช่น หากลูกเก็บเงินได้ครบทุกๆ 1,000 บาท คุณพ่อคุณแม่จะสมทบให้อีกเท่าตัว หรือเมื่อเก็บเงินจนครบสามารถซื้อของเล่นที่อยากได้แล้ว จะซื้อเพิ่มให้ในราคาที่เท่ากันอีกหนึ่งชิ้น รับรองเจ้าตัวเล็กที่อยากได้ของเล่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะยิ่งอยากเก็บเงินให้มากขึ้นกว่าเดิมอีก


2. ตั้งกติกาแบงก์นี้ห้ามใช้ เก็บได้อย่างเดียว

เช่น แบงก์ 50 เมื่อได้มาแล้วให้เอามาออมแข่งกันทั้งครอบครัว ใครออมได้มากที่สุดในระยะเวลาที่กำหนด จะได้รับรางวัลโดยการเลือกสถานที่ไปเที่ยว หรือไปรับประทานอาหารในร้านที่ตัวเองชอบ เป็นต้น

 

3. เมื่ออยากได้ต้องได้ ก็ให้จัดไป

เด็กหลายคนอาจงอแง รบเร้า เมื่อไม่ได้ของที่ตัวเองต้องการในทันที ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งกติกาได้ด้วยการซื้อให้ แต่ต้องผ่อนจ่ายในภายหลัง โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกได้รับเงินเป็นรายสัปดาห์ ก็ให้คุณพ่อคุณแม่หักเงินจากยอดเต็มออกไป 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้ลูกมีเงินค่าขนมลดลง แต่ได้เรียนรู้จากการมีหนี้ที่ต้องชำระคืน

 

4. พาไปเปิดบัญชีเงินฝากประจํา

การเปิดบัญชีให้ลูกซึ่งนอกจากเด็กๆ จะได้เรียนรู้ว่าหากมีวินัยในการออมที่ดีแล้ว จะได้ยังให้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา แต่หากขาดวินัย จะทำให้ไม่ได้รับดอกเบี้ยที่ควรจะได้รับอีกด้วย

 

5. สอนให้ลูกทำบัญชีรายรับรายจ่าย

เมื่อลูกโตขึ้น และเข้าใจเรื่องการใช้จ่ายและค่าของเงิน การสอนลูกให้ทำบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นอีกขั้นตอนสำคัญในการสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ดี เพราะช่วยให้ลูกเห็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวันและแต่ละสัปดาห์ ทั้งยังช่วยให้ลูกสามารถวางแผนซื้อของที่ต้องการได้ เช่น หากต้องการซื้อของในราคา 500 บาท หากมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้จะช่วยให้ลูกสามารถวางแผนได้ว่า ควรลดค่าใช้จ่ายในส่วนไหน และต้องใช้ระยะเวลากี่วันถึงออมเงินได้ 500 บาทเพื่อซื้อสิ่งของที่ต้องการ

 

6. สอนลูกออมเงินผ่านกระปุกออมสิน

พ่อแม่สามารถสอนลูกออมเงินได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้กระปุกออมสินที่มีลวดลายการ์ตูนที่ลูกชอบหรืออาจซื้ออุปกรณ์มาให้ลูกได้เพ้นท์สีเอง จะช่วยให้ลูกสนุกกับการหยอดเหรียญ โดยในขณะที่ลูกหยอดเงินนั้น

คุณพ่อคุณแม่อาจพูดชื่นชมและปรบมือไปด้วย จะช่วยให้ครั้งต่อไปเมื่อลูกมีเงินเหลือจากค่าขนม ลูกก็จะนึกถึงกระปุกออมสินของตัวเองขึ้นมาได้

 

7. สอนให้ลูกบริหารจัดการเงินด้วยตัวเอง

การสอนให้ลูกบริหารจัดการเงินด้วยตัวเองเป็นทักษะสำคัญที่จะติดตัวพวกเขาไปตลอดชีวิต ช่วยให้พวกเขามีความรับผิดชอบรู้จักคุณค่าของเงิน ช่วยให้ลุกจักอดทนในการเก็บเงินซื้อของที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น การให้ค่าขนมลูกอาทิตย์ละ 300 บาท สามารถสอนให้ลูกแบ่ง เงินออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนสำหรับเก็บออม และสำหรับใช้จ่ายประจำวัน เมื่อลูกต้องการเก็บเงินซื้อของเล่นในราคา 200 บาท ลูกจะเริ่มบริหารจัดการเงินด้วยการแบ่งออมเงินอาทิตย์ละ 50 บาท ใน 1 เดือน 4 อาทิตย์ลูกก็จะสามารถซื้อของเล่นที่ต้องการได้


8. เป็นแบบอย่างการใช้จ่ายเงินให้ลูกเห็น

การสอนที่ดีที่สุดคือการทำเป็นแบบอย่างให้ลูกเห็น เพราะเด็กมักเลียนแบบพฤติกรรมจากพ่อแม่ หรือ

ผู้ปกครอง การซื้อของเท่าที่จำเป็น เลือกซื้อสินค้าที่ดีมีคุณภาพ การนับเงินถอน และเช็กใบเสร็จทุกครั้งว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ การแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ให้ลูกเห็นจะช่วยให้ลูกเห็นคุณค่าของเงินแต่ละบาท และเมื่อโตขึ้นจะทำให้ลูกมีนิสัยทางการเงินที่ดี

 

นอกจากสอนให้ลูกออมเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคงแล้วแล้ว พ่อแม่ยังสามารถสร้างหลักประกันในชีวิตให้ลูกด้วยการทำประกันชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาจะไม่กระทบกับเงินออม ขอแนะนำ ไลฟ์ โพรเทคเตอร์ 90/20 แบบประกันชีวิต คุ้มครองตลอดชีพ ลดหย่อนภาษีได้ เลือกใช้ชีวิตอย่างสบายใจ หมดห่วง ด้วยแบบที่มอบความคุ้มครองตลอดชีพ มั่นใจได้ว่าคนที่คุณรักจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี แม้ในวันที่คุณไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาอีกต่อไป


สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง

ติดต่อเรา
ติดต่อเรา

เลือกแบบประกันชีวิตจากชับบ์ ไลฟ์ ตามช่วงชีวิตของคุณ