ปัจจุบันกรมสรรพากรยินยอมให้ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี* อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะนำมาขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แต่จะต้องตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งแบบกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ใช้สิทธิได้ รวมถึงข้อกำหนดการหักลดหย่อนภาษีของแต่ละแบบ
สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิในส่วนนี้ ต้องทำความเข้าใจกับข้อกำหนดของกรมสรรพากร เพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด ซึ่งเบี้ยประกันที่กรมสรรพากรอนุญาตให้ใช้ลดหย่อนภาษีได้ มี 2 ประเภทดังนี้
1. เบี้ยประกันชีวิตและเบี้ยประกันสุขภาพที่ทำให้ตัวเอง สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้
2. เบี้ยประกันชีวิตของประกันแบบบำนาญที่ทำให้ตัวเอง สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และไม่เกิน 15% ของเงินได้ซึ่งต้องเสียภาษี** ซึ่งเงินก้อนนี้เมื่อนำไปรวมกับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน เงินสะสมเข้ากองทุนการออมแห่งชาติ เงินที่ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
เน้นคุ้มครองชีวิต พร้อมมีเงินก้อนให้กับคนข้างหลัง
ดูแบบประกันอื่นๆ ที่เน้นคุ้มครองชีวิต>>
เน้นสะสมทรัพย์ มีเงินคืนระหว่างทาง พร้อมมีเงินก้อนไว้ใช้ในอนาคต
เน้นเงินบำนาญและวางแผนเกษียณอายุ
เบี้ยประกันสุขภาพที่ทำให้พ่อแม่ สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท และตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้
เน้นคุ้มครองยามเจ็บป่วย มีเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด เมื่อรักษาตัวใน รพ.
เน้นคุ้มครองยามเกิดอุบัติเหตุ มีเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลและผ่าตัด รวมทั้งการสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
เน้นคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง มีเงินชดเชยเป็นเงินก้อน เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรง
กรณีที่พ่อแม่ทำประกันชีวิตให้ลูก โดยพ่อแม่เป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัย พ่อแม่ไม่สามารถเอาเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตไปลดหย่อนภาษีได้ เฉพาะเงินค่าเบี้ยประกันชีวิตที่ซื้อให้กับตัวเองหรือของคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ และค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ซื้อให้พ่อแม่เท่านั้น ที่สามารถนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
* ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 162, 172, 194 และ 261
** กฎเกณฑ์ใหม่ของกรมสรรพากร สำหรับปีภาษี 2558 เป็นต้นไป การลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญจะคิดจากเงินได้ซึ่งต้องเสียภาษี ซึ่งไม่สามารถนำเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษีมารวมเป็นเงินได้เพื่อใช้สิทธินี้ เช่นกำไรที่ได้รับจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เงินรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นต้น
การพิจารณารับประกันภัย และการอนุมัติสินไหมเป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทฯ