เลือกประกันชีวิตแบบไหนดีที่เหมาะสมกับตัวเอง
ประกันชีวิตไม่ได้เพียงช่วยปกป้องอนาคตของคุณและคนที่คุณรักเท่านั้น แต่ยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย โดยในปัจจุบันกรมสรรพากรยินยอมให้ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปีตามเงื่อนไขของประกาศกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะนำมาขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แบบประกันชีวิตที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีมี 3 ประเภท ได้แก่
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แบบประกันชีวิตที่เน้นให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตตลอดชีพหรือตามกำหนดเวลา หรือแบบสะสมทรัพย์ที่ส่วนใหญ่จะคุ้มครองเงินต้นและมีเงินจ่ายคืนระหว่างสัญญา ผู้เอาประกันภัยสามารถนำเบี้ยประกันภัยที่จ่ายในแต่ละปีมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อรอบปีภาษี โดยจะต้องเป็นแบบประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ แบบสะสมทรัพย์บางแบบจะไม่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งเงื่อนไขจะเป็นไปตามที่กรมสรรพากรประกาศกำหนด
ประกันประเภทนี้จะเน้นให้ความคุ้มครองเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและการผ่าตัด รวมทั้งการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากเจ็บป่วยและบาดเจ็บด้วย ประเภทของแบบประกันภัยที่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ คือ
ประกันสุขภาพ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเมื่อต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งจากกรณีเจ็บป่วยและเกิดอุบัติเหตุ
● ประกันอุบัติเหตุ เฉพาะในส่วนที่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องจากอุบัติเหตุ รวมถึงการสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และกระดูกแตกหัก
● ประกันโรคร้ายแรง เมื่อตรวจพบเจอโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในแบบประกันภัย
ทั้งนี้ สามารถนำเบี้ยประกันภัยที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริงสูงสุด 15,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อรอบปีภาษี
ประกันชีวิตแบบบำนาญ แบบประกันสำหรับคนที่ต้องการวางแผนการเงินไว้ใช้หลังเกษียณในจำนวนที่แน่นอน โดยมีการจ่ายผลประโยชน์ให้เป็นรายงวดเท่าๆ กัน หรือเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการเอาประกันภัย ตั้งแต่อายุ 55 – 85 ปีหรือมากกว่า ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินผลประโยชน์ต่อเมื่อจ่ายเบี้ยประกันครบตามกำหนดแล้วเท่านั้น โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท*
*และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนอื่นๆ แล้ว สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 500,000 บาท โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของประกาศกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่ได้จ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญที่หักลดหย่อนภาษีได้ ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 194 ไปหักลดหย่อนแทนเบี้ยประกันชีวิตได้ ซี่งจะได้สิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุด 300,000 บาท
โดยสรุปแล้วประกันชีวิต นอกจากจะเป็นเครื่องมือสำหรับการวางแผนการเงินและคุ้มครองความเสี่ยง ยังช่วยให้ประหยัดภาษีได้อีกด้วย วางแผนการเงินอย่างชาญฉลาด เลือกทำประกันชีวิตที่เหมาะสม เพื่ออนาคตที่มั่นคง
เลือกประกันชีวิตแบบไหนดีที่เหมาะสมกับตัวเอง
10 วิธีวางแผนการเงินสำหรับทุกวัยที่ช่วยให้ชีวิตมั่งคั่งอย่างมั่นคง
วางแผนเกษียณอย่างไรให้มีเงินใช้อย่างเพียงพอ
สงวนลิขสิทธิ์ @ ชับบ์ 2022 เนื้อหาในเอกสารนี้มีขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และจะไม่ถือว่าเป็นการให้คำแนะนำใด ๆ โปรดตรวจสอบข้อกำหนด เงื่อนไข และข้อยกเว้นฉบับสมบูรณ์ของนโยบายของเราเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ความคุ้มครองอาจได้รับการรับประกันโดยบริษัทชับบ์ หรือบริษัทในเครือข่ายอย่างน้อยหนึ่งราย สิทธิความคุ้มครองและบริการบางอย่างอาจไม่สามารถใช้ได้ในบางประเทศและบางเขตพื้นที่ ชับบ์® และประทับตราพาณิชย์ของชับบ์ Insured.SM เป็นเครื่องหมายการค้าของชับบ์ที่ได้รับการคุ้มครอง
ติดต่อเรา
ให้ ชับบ์ ไลฟ์ ปกป้อง ดูแลคุณ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา เพื่อรับคําแนะนําเกี่ยวกับการปกป้อง คุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ